เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (ปาตี้ลีสต์) ได้นัดรวมตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด ที่บ้านพักเลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ส.ระบบเขต จ.ตรัง 3 คน คือ เขต 1 น.พ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง 3 สมัย เขต 2 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง 5 สมัย และอดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ เขต 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ลูกสาวของ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง 4 สมัย รวมทั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อีก 1 คน คือ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง 4 สมัย
จากนั้น นายชวน ได้นำทีมผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งหมด 5 คน เดินออกจากบ้านพักบน ถ.วิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง เพื่อไปลงสมัคร ส.ส. ยังมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ศูนย์ตรัง ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้สมัคร ส.ส. โดยเฉพาะระบบเขต จ.ตรัง สำหรับการสู้ศึกเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ เพื่อกวาดเก้าอี้ให้ครบทั้ง 3 เขตอีกครั้ง และครั้งนี้จะเป็นสมัยแรกที่เก้าอี้ ส.ส.ตรัง ลดลงไป 1 นั่ง จากเดิมที่มี 4 ที่นั่ง นอกจากนั้น ได้มีบรรดาหัวคะแนน กองเชียร์ และผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ติดตามไปด้วยเป็นจำนวนมาก พร้อมกับรถแห่ จนสร้างความครึกครื้นให้เป็นอย่างยิ่ง
นายชวน กล่าวว่า ตนมาเพื่อให้กำลังใจให้แก่ผู้สมัคร ส.ส.พรคประชาธิปัตย์ และตนเองก็เติบโตทางชีวิตการเมืองที่ จ.ตรัง มาเมื่อ 50 ปีที่แล้ว เพียงแต่สมัยนี้เก้าอี้ ส.ส.ระบบเขต ลดลงไป 1 ที่นั่ง แต่ตนไม่รู้สึกหวั่นไหว เพราะยึดมั่นการเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด จึงทำให้พรรคได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัย และจะไม่มีทางเปลี่ยนการเมืองไปแบบอื่น อย่างเช่น การทุจริต การซื้อเสียง โดยเด็ดขาด จึงอยากให้ชาวตรัง และชาวไทยทั่วประเทศ ช่วยกันเลือกคนดีเข้ามาบริหารประเทศ เพราะเราเคยมีประสบการณ์ หรือมีบทเรียนทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา จนทหารต้องเข้ามายึดอำนาจ ส่วนหนึ่งไม่ใช่ความผิดของรัฐธรรมนูญ แต่มาจากความผิดของตัวบุคคล ที่ประพฤติปฏิบัติไม่อยู่ในร่องในรอยของระบอบประชาธิปไตย จึงทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น
ส่วนกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตกลงในภาคใต้ รวมทั้ง จ.ตรัง นั้น นายชวน กล่าวว่า ปกติประชาชนก็จะเปลี่ยน หากเห็นว่านักการเมืองที่เขาเลือกมีพฤติกรรมไม่ดี เช่น ขายตัว ทำอะไรที่ไม่สุจริต เขาก็จะไม่เลือกในช่วงตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเขาเห็นดี เขาก็จะเลือก เพราะฉะนั้นไม่ใช่หมายความว่าการเลือกหลายครั้งจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้เอง ประชาชนเขาฉลาดที่จะตัดสินใจได้ว่า อะไรคืออะไร คนนอกที่ไม่ค่อยรู้ที่ไปที่มายังคงเข้าใจว่าการเมืองต้องเปลี่ยนทุกครั้ง แต่เป็นความคิดของบางพื้นที่ ที่เข้ามาแล้วโกงกิน แล้วสักพักก็เปลี่ยนคนใหม่เข้ามาโกงกินต่อ แต่ที่ จ.ตรัง ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคนที่ทำอะไรที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่ซื่อสัตย์สุจริต คือการทรยศต่อประชาชน และสุดท้ายคนเหล่านั้น พรรคเหล่านั้น ก็ไม่อาจเกิดที่ จ.ตรัง ได้
©2018 CK News. All rights reserved.