บริษัทโอลิมปัสแห่งญี่ปุ่น ตัดสินใจขายธุรกิจกล้องถ่ายภาพ หลังดำเนินกิจการมานาน 84 ปี เนื่องจากประสบปัญหายอดขายขาดทุน 3 ปีติดต่อกัน โดยจะหันไปเน้นผลิตอุปกรณ์การแพทย์เป็นหลัก
จากที่เคยเป็นหนึ่งในแบรนด์ญี่ปุ่นที่รู้จักกันทั่วโลก มาวันนี้กำลังจะกลายเป็นอีกตำนานที่หลงเหลือในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมกล้องถ่ายภาพ หลัง Olympus ตัดสินใจขาย "ธุรกิจกล้องถ่ายภาพ" ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1936 หรือ 84 ปีก่อน หลังจากประเมินแล้วว่าสู้ต่อไปมีแต่เสียกับเสีย
Olympus เป็นดังเช่นยักษ์ใหญ่บริษัทกล้องรายอื่นๆ ที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับตลาดที่เทไปยังกล้องถ่ายภาพระบบดิจิทัล และสมาร์ทโฟนที่นับวันจะมีคุณภาพที่ทัดเทียมจนแยกไม่ออก ขณะเดียวกัน Olympus ได้พยายามปรับปรุงโครงสร้างต้นทุน หลังยอดขายลดลงต่อเนื่อง ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างการผลิต โดยมุ่งไปที่เลนส์ซึ่งมีมูลค่าสูง
แต่ความพยายามกลับไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะธุรกิจกล้องถ่ายภาพของ Olympus บันทึกผลขาดทุนจากการดำเนินงานติดต่อกัน 3 ปี จนถึงปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา จุดนี้เองเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ Olympus ตัดสินใจขายให้กับ Japan Industrial Partners (หากจำกันได้ Japan Industrial Partners เป็นรายเดียวกับผู้ที่เข้าซื้อธุรกิจ VAIO ของ Sony)
ตามรายงานระบุว่า Olympus ได้บันทึกความเข้าใจที่จะขายธุรกิจกล้องถ่ายภาพกับ Japan Industrial Partners เรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงสำหรับการทำธุรกรรมที่มีผลผูกพันภายในวันที่ 30 กันยายน และพยายามทำข้อตกลงให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขายในครั้งนี้ออกมา
Japan Industrial Partners วางแผนที่จะปรับปรุงธุรกิจกล้องถ่ายภาพให้มีขนาดที่กะทัดรัด มีประสิทธิภาพ และคล่องตัวมากขึ้น ส่วน Olympus วางแผนหลังจากนี้จะมุ่งไปที่ธุรกิจการแพทย์ ซึ่งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่า
ทั้งนี้ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2020 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ มีรายได้ 4.36 หมื่นล้านเยน หรือ 1.26 หมื่นล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนจากการดำเนินงาน 1.04 หมื่นล้านเยน หรือ 3 พันล้านบาท ตัวเลขนี้นับว่าน้อยกว่าปีงบประมาณ 2019 ที่ขาดทุนไปทั้งสิ้น 1.83 หมื่นล้านเยน หรือ 5.29 พันล้านบาทด้วยกัน
©2018 CK News. All rights reserved.