จากกรณีการพบศพของ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 30 ปี แฟนสาว ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสว.สส.สน.วังทองหลาง เสียชีวิต สภาพมีรอยกระสุนปืนขนาด .45 ยิงเข้าขมับซ้าย 1 นัด ซึ่งเป็นอาวุธปืนของร.ต.อ.ทรงกลด นอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟาภายในบ้านพักย่านถนนแฮปปี้แลนด์สายเก่า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ขณะที่ญาติระบุผู้ตายมักทะเลาะกับร.ต.อ.ทรงกลด ถึงขั้นถูกลงไม้ลงมือมาแล้ว และสภาพศพมีพิรุธหลายจุด

 

 

ล่าสุดวันที่ 21 มิ.ย. ที่สน.ลาดพร้าว นางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี แม่ของ น.ส.พิมชฎาพร พร้อมด้วย นายสมัย ภูคงน้ำ อายุ 53 ปี น้าชาย และญาติพี่น้องรวมกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี และทำเรื่องเกี่ยวกับการขอรับศพน.ส.พิมชฎาพร ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านคงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

นางทองใส กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงการจะฆ่าตัวตาย จึงไม่เชื่อว่าลูกจะฆ่าตัวตาย ส่วนกรณีที่มีกระสุนยิงเข้าทางด้านซ้าย ตนไม่เชื่อว่าจะใช้ปืนยิงเข้าไปบริเวณดังกล่าว เนื่องจากลูกถนัดมือข้างขวาและใช้ปืนไม่เป็น อย่างไรก็ตาม ปกติมีเรื่องอะไรลูกสาวจะโทรมาปรึกษากับตนตลอด

 

 

นางทองใส กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างลูกสาวกับแฟนนั้น ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่า ทะเลาะกันบ่อยครั้ง เคยใช้ปืนจ่อหัว และลงมือหนักทุบตีจนลูกสาวสลบ กระทั่งครั้งหนึ่งลูกสาวเคยพาหลานหนีกลับบ้าน ผู้ชายคนนี้ขู่ว่าจะฆ่าล้างโคตร จึงยอมรับว่ากลัวใจผู้ชายคนนี้มาก และเคยเตือนลูกสาวว่าให้เลิกลากันไป แต่ลูกสาวไม่ยอมเลิก เพราะเห็นแก่ลูกคือหลานของตนอายุ 2 ขวบ

 

 

"ตั้งแต่ลูกสาวคบกับผู้ชายคนนี้มาเกือบ 4 ปี แม่ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้ไปบ้านหรือไปทำให้ถูกต้องตามประเพณี ขนาดลูกแม่ตาย เขายังไม่คิดจะโทรบอกแม่เลย ตำรวจที่ สน.ลาดพร้าวเป็นคนโทรบอกถือว่าเขาใจดำเหลือเกิน ท้ายที่สุดอยากฝากบอกนายตำรวจคนนี้ว่า หากเป็นคนทำก็อยากจะให้ยอมรับผิด และมอบตัว แต่ถ้าไม่ทำก็ให้ออกมาพูดความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น" แม่ของน.ส.พิมชฎาพร กล่าว

ด้าน น.ส.พนิตา บุญโชติ อายุ 31 ปี ลูกพี่ลูกน้อง กล่าวว่า น.ส.พิมชฎาพรคบกับนายตำรวจคนนี้ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งช่วงแรกน.ส.พิมชฎาพรไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ผู้ชายเคยมีลูกมีภรรยามาก่อน ซึ่งน.ส.พิมชฎาพรมารู้ทีหลังขณะที่กำลังตั้งท้อง และเคยโทรมาปรึกษากับตนว่า นายตำรวจโกหกว่าตัวเองโสด

 

 

น.ส.พิมชฎาพรจึงตัดสินใจคบหาและมีครอบครัวด้วย เพราะถ้าพูดกันตามตรงน.ส.พิมชฎาพรทำอาชีพพริตตี้ งานก็ไม่ได้มั่นคงขนาดนั้น การที่จะมีครอบครัว หน้าที่การงานเขาก็ดี จึงตัดสินใจมีลูกมีครอบครัว จนพักหลัง ๆ น้องทะเลาะกับผู้ชายคนนี้บ่อยขึ้น มีการลงไม้ลงมือ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ผู้ชายชอบไปกินเหล้า ไม่ยอมเข้าบ้าน

 

 

น้องบอกเขาติดการพนันด้วย ส่วนเรื่องชู้สาวดิฉันก็คิดว่าน่าจะมี เขาแทบจะไม่เคยดูแลน้องเลย อย่างตอนช่วงที่คลอดลูก น้องไปโรงพยาบาลไม่ทันถึงกลับต้องคลอดลูกตรงบันไดทางขึ้นแฟลตตำรวจที่เขาเคยอยู่ด้วยกัน