เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของประเทศฝรั่งเศส ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศออกไปอีก 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ เป็นอย่างน้อย พร้อมเน้นย้ำว่ามาตรการต่างๆ ที่ใช้รับมือกับโรคโควิด-19 กำลังได้ผล แต่การต่อสู้ครั้งนี้ยังไม่จบ และขอความร่วมมือพลเมืองทุกคนให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
แคว้นอีลเดอฟร็องส์ ที่มีกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศสตั้งอยู่ พบผู้ป่วยโควิด-19 สูงที่สุดในประเทศ ตามมาด้วยแคว้นกร็องแต็สต์ (สทราซบูร์) และแคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ (ลียง) โดยทางการคาดจะตรวจหาการติดเชื้อในผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายโควิด-19 ได้ทุกรายก่อนวันที่ 11 พฤษภาคม โดยขณะนี้สาธารณสุขฝรั่งเศสตรวจหาเชื้อไปแล้ว 3.3 แสนราย หรือคิดเป็น 5.1 พันรายต่อจำนวนประชากร 1 ล้านราย
ถ้าหากหลังวันที่ 11 พฤษภาคม สถานการณ์การแพร่ระบาดโดยรวมดีขึ้น นั่นอาจเป็นอีกก้าวหนึ่งของฝรั่งเศสที่อาจจะได้เห็นโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กต่างทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ในขณะที่บาร์ ร้านอาหาร รวมถึงงานอีเวนต์ที่ผู้คนจะต้องมารวมตัวกันเป็นจำนวนมากอาจยังคงต้องปิดและเลื่อนออกไปจนกว่าจะถึงช่วงกลางเดือนกรกฎาคม
โดยล่าสุดฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยโควิด-19 สะสมสูงถึง 136,779 ราย นับเป็นประเทศอันดับที่ 4 ที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในขณะนี้ ตามหลังสหรัฐอเมริกา สเปน และอิตาลี รักษาหายแล้ว 27,718 ราย เสียชีวิตแล้ว 14,967 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ราว 11%
©2018 CK News. All rights reserved.