23 ม.ค. 62 มีรายงานว่าได้รับแจ้งจาก นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด อดีตกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนภาคประชาชนเครือข่ายภาคประชาชนร้อยเอ็ด ว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านท่าไคร้ หมู่ 1 ตำบลกลาง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ขอให้ตรวจสอบโครงการลงลูกรัง ถนนสายคันพนังกั้นลำน้ำชี จากบ้านท่าไคร้ หมู่ 1 ตำบลกลาง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ไปถึงบ้านแห่ ตำบลนาเลิง ระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยลงลูกรังถนนกว้าง 8.00 เมตร หนาจากลูกรังเดิม 20 เซ็นติเมตร บดอัดแน่น ตามโครงการในสัญญางบประมาณ 3,400,000 บาท ว่าไม่ลงลูกรังเพียงเกรดปรับแต่งเอาดินไหล่ถนนขึ้นมากลบลูกรังเดิม ถนนเดิมที่มีสภาพเป็นถนนลูกรังที่ใช้การได้ดีอยู่แล้ว จึงได้ลงตรวจสอบพื้นที่กับชาวบ้านผู้เดือดร้อน ปรากฏว่าไม่มีผิวลูกรัง มีฝุ่นคลุ้ง ไม่มีลูกรังตลอดสาย แสดงให้เห็นชัดเจนว่าส่อไปในทางไม่ชอบมาพากล หรือมีการทุจริตเกิดขึ้น ที่ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามรูปแบบและสัญญา ดังนั้นในนามตัวแทนภาคประชาชน จึงแนะนำให้ นายอรัญ สิงหาวุธ ผู้ใหญ่บ้านท่าไคร้ หมู่ 1 ทำหนังสือพร้อมให้ชาวบ้านลงนามร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด, นายอำเภอเสลภูมิ, นายกเทศบาลตำบลเสลภูมิ, ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 ขอให้ได้ตั้งคณะกรรมการลงตรวจสอบ หากผิดขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป แต่เรื่องก็เงียบหายไปไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถนนเป็นฝุ่น และชาวบ้านได้รับอุบัติเหตุจากถนนสายนี้หลายราย จึงร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยกระจายข่าวถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาแก้ไขความเดือนร้อนของประชาชน และดำเนินคดีผู้ที่มีส่วนร่วมทุจริต และผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ถนนสายดังกล่าวโดยเร็วด้วย
เช้าวันนี้ (23 มกราคม 2562) สื่อมวลชนได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับ นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ นายอรัญ สิงหาวุธ ผู้ใหญ่บ้านท่าไคร้ หมู่ 1 และชาวบ้านท่าไคร้ กว่า 30 นาย พบว่าถนนตลอดสายดังกล่าวไม่มีลูกรังจริง พบแต่ดินที่รถไถดินริมถนนขึ้นมากลบถถนนเดิม พบรถยนต์และรถถจักรยานยนต์วิ่งไปมาลำบาก ฝุ่นคลุ้ง กระจายแทบมองไม่เห็น ชาวบ้านได้รับอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะรถจยย. เสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บแขนขาหักไปหลายราย และในระหว่างการตรวจสอบพบนายสนิท กิจวุธ อายุ 49 ปี ซึ่งขับขี่ จยย. มาถึงที่เกิดเหตุเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บแขนขวาหักผ่านมาพอดีเล่าให้ฟังว่า บังคับรถไม่ได้เกิดแฉลบล้มลง ถ้าหน้าฝนยิ่งเดือดร้อนหนักถนนจะเป็นโคลนรถวิ่งไม่ได้
แกนนำชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่า ตอนสร้างรู้จักแต่สร้างเสร็จไม่รู้จัก ผลกระทบตอนแรกถนนเป็นลูกรังดีๆ แต่มาเกรดลูกรังหนี ถนนกว้าง 8 เมตร เกรดลูกรังหน้าดินออกหมดเหลือแต่ดิน เวลาชาวบ้านเทียวไปเทียวมมาหรือไปนาไปไร่ก็ล้มลงแขนขาหักสร้างความเดือดร้อน บอกหน่วยงานไหนก็ไม่มีใครดูแลสักหน่วยงาน ว่าจะเอาดินลูกรังมาลงก็มีแต่ขี้ฝุ่น มีแต่ดิน เสร็จงานป้ายก็ไม่ขึ้น งบประมาณเท่าไหร่ชาวบ้านก็ไม่รู้ ลูกรังไม่ลง บดอัดก็ไม่บด ทำไม่ถูก แถมไม่มีการประชุมชาวบ้าน ชาวบ้านไม่รู้จักสักคน อยู่ดีๆ ก็เห็นว่ามีโครงการถนนลูกรังกว้าง 8 เมตร หนา 15 ซม. แต่ชาวบ้านมาดูก็ไม่ทำตามสัญญาที่ให้กับอำเภอและจังหวัดไว้ การลงทำงานป้ายประกาศก็ไม่มี ไม่มีการประชุมบอกชาวบ้านว่ามีโครงการนี้ แต่ก่อนถนนสายนี้ใช้งานได้ดี เป็นถนนลูกรังดีมากไปมาไม่เดือดร้อน ถ้าฝนตกเดือดร้อนหนักแน่
ด้าน นายนิรันดร์ กล่าวว่า ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเอาลูกรังมาลงจะได้แล้วเสร็จและจบไป หากไม่ดำเนินการตนจะนำชาวบ้านร้องเรียน ป.ป.ง. ส.ต.ง. ป.ป.ช. และบุกทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้ตรวจสอบ ยึดเงินคืน และทำใหม่
©2018 CK News. All rights reserved.