“โฆษก ทอ.” เผยเหตุต้องแจ้งเตือน กำลังพล ให้ระวัง COVID-19


26 ก.พ. 2563, 14:50

“โฆษก ทอ.” เผยเหตุต้องแจ้งเตือน กำลังพล ให้ระวัง COVID-19




วันนี้ (26 ก.พ. 63)  เพจใช้ชื่อนาม Wassana Nanuam  รายงานว่า โฆษกกองทัพอากาศ ได้ออกมาชี้แจงเหตุที่ต้องเตือนกำลังผลให้ระวัง COVID19 โดยระบุว่า 

พลอากาศโท พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย รองเสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะ โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( Coronavirus Disease 2019 : COVID – 19 ) เป็นโรคติดต่ออันตราย อีกทั้งมีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ดอนเมือง ซึ่งผู้ป่วยดังกล่าวมีประวัติเดินทางไปกลุ่มประเทศเสี่ยง และขณะนี้ได้ส่งต่อเข้ารักษาต่อ ณ โรงพยาบาลของรัฐตามขั้นตอนของกรมควบคุมโรค เรียบร้อยแล้ว

ภายหลังการดำเนินการกับผู้ป่วยดังกล่าว พบว่ามีกลุ่มคนที่ร่วมคณะกับผู้ป่วย และอาจเข้ามาติดต่อปฏิสัมพันธ์กับข้าราชการและครอบครัวทหารอากาศได้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ จึงสั่งการให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงแจ้งเตือนและเน้นย้ำกำลังพลและครอบครัว ปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย และรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือบ่อยครั้ง และหากพบว่าตนเองมีอาการป่วยที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจทันที พร้อมทั้งเปิดเผยประวัติการเดินทางหรือประวัติการติดต่อกับบุคคลอื่นๆ



สำหรับ ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ของกองทัพอากาศที่จะลาหรือเดินทางไปราชการ หรือแวะผ่านประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด ให้งดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

กรณีที่มีเหตุผลหรือความจำเป็นอย่างยิ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางได้ ให้แจ้งเหตุผลหรือความจำเป็นดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรงเป็นรายกรณี และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชื้อโรค COVID – 19 ณ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ หรือสถานพยาบาลอื่นที่มีมาตรฐานการตรวจคัดกรอง รวมถึงรายงานผลการตรวจดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาโดยตรง

หากตรวจพบหรือมีภาวะเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรค COVID-19 ให้ขออนุญาตลาเพื่อเข้ารับการรักษา หรือเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว เป็นมาตรการเชิงป้องกันเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่กองทัพอากาศ

อย่างไรก็ตาม การป้องกันโรคจะมีประสิทธิภาพต้องอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการ ครอบครัวและประชาชน ทุกคนในการดูแลตนเอง และรับผิดชอบต่อสังคมขณะเมื่อเข้ารับการรักษา โดยต้องไม่ปิดบังประวัติการเดินทางหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

 


 

เครดิต : Wassana Nanuam











©2018 CK News. All rights reserved.