เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวซินหัว รายงานเรื่องราวของกวน เจียงเฟิง อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาของโรงพยาบาลแห่งแรกในอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคลากรแพทย์ที่จะต้องผจญศึกต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 และทำงานอยู่ในสมรภูมิเชื้อไวรัสตลอดกว่า 20 วันที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม ด้วยภาระหน้าที่ ทำให้เหล่าแพทย์และพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องเผชิญต่อการตัดสินใจที่ยากลำบากเช่นกัน ระหว่างความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความกตัญญู ดังเช่นที่กวน เจียงเฟิงจำต้องเลือกเส้นทางที่ต้องดำเนินชีวิตต่อไป และถึงคราวเสียน้ำตาเมื่อได้ทราบข่าวร้าย แม่ของเขาได้จากอย่างไม่มีวันกลับ
 
อนึ่ง แม่ของกวน เจียงเฟิง ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่ 3 ปีก่อน และอาการทรุดหนักลงในเดือนธันวาคม 2562 แม่ของเขาเกิดภาวะหายใจติดขัด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจพยุงชีพและอยู่ในห้องไอซียู กระทั่งวันที่ 17 มกราคม 2563 ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องกักกันโรค กวน เจียงเฟิง ก็ได้ทราบว่า แม่ของเขาได้เสียชีวิตแล้ว โดยที่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสสุดท้ายจะมาดูใจท่าน ถึงแม้เขาจะขอลากลับมาจัดงานศพของแม่ได้ แต่ทันทีที่พิธีเสร็จสิ้น กวน เจียงเฟิง ก็กลับไปต่อสู้กับไวรัสโคโรนาอีกครั้ง

ไม่เพียงแต่จะต้องอยู่ห่างจากแม่จนพลาดโอกาสดูใจครั้งสุดท้าย กวน เจียงเฟิง ยังต้องแยกห่างจากภรรยาด้วยเช่นกัน โดย หลี่น่า ภรรยาของกวน เจียงเฟิง ก็เป็นแพทย์ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้าเช่นกัน แต่ทั้งคู่จำต้องพักแยกกันในโรงแรม 2 แห่งที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ และเขาก็เพิ่งจะได้พบหน้าภรรยาเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ตอนที่เดินทางนำน้ำแกงไปส่งให้ภรรยาได้กิน เพราะห่วงว่าเธอจะเหนื่อยจนกินอะไรไม่ลง
 
ในขณะที่ลูกชายของทั้งคู่ได้นำไปฝากไว้ที่บ้านเกิดในเมืองเฉียนเจียง มณฑลหูเป่ย์ ให้ญาติช่วยดูแล เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และอาศัยการวิดีโอคอลคุยกัน เมื่อทนความคิดถึงลูกชายไม่ไหว นับว่าเป็นอีกครอบครัวแพทย์ผู้เสียสละอย่างแท้จริง ในสถานการณ์คับขันที่ต้องเผชิญต่อโรคระบาด ซึ่งไม่ได้มีเพียงครอบครัวของกวน เจียงเฟิง ที่ต้องอุทิศตัวให้กับหน้าที่โดยไม่เห็นแก่ตัว แต่ยังมีบุคลากรทางการแพทย์อีกหลายครอบครัว ที่จะต้องเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อผู้อื่นเช่นกัน

 

ที่มา : xinhuathai