วันที่ 28 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายอนุศักดิ์ แซกรัมย์ อายุ 40 ปี และนางนิดหน่อย ชัยสูงเนิน อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา อยู่เลขที่ 123 หมู่ 3 บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
ร้องสื่อขอพลังสังคมช่วยเหลือขอความเป็นธรรม หลังจากนายอนาวิล แซกรัมย์ อายุ 17 ปี ล ลูกชาย ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ไปชนกับรถยนต์ของ สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ บนถนนสาย 226 บริเวณหน้าตู้ยามทะเมนชัย บ้านสี่เหลี่ยมน้อย ติดกับโรงเรียนจตุราษฎร์พิทยาคม อ.ลำปลายมาศ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเวลา 20.00 น.เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา

นายอนุศักดิ์ พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุลูกชายขับรถจักรยานยนต์จะเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์ ระยะทางประมาณ 24 กม. แล้วเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้นตนต้องไปเยี่ยมลูกชายที่ถูกส่งต่อไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากนั้นก็จัดงานฌาปนกิจศพลูกชายตามประเพณี ระหว่างการจัดงานศพมีตำรวจ สภ.ทะเมนชัย เข้ามาในงานศพครั้งเดียวประมาณ 10 นาทีแล้วออกไป โดยไม่มีมาพูดคุยหรือเจรจาใดๆ จนกระทั่งทราบข่าวจากตำรวจว่า ลูกชายเป็นฝ่ายผิดเพราะวิ่งข้ามเลนไปชนกับรถตำรวจ ครอบครัวซึ่งมีฐานะยากจนไม่รู้จะไปปรึกษาใคร แต่ทราบจากคนเห็นเหตุการณ์ว่ารถตำรวจชนอยู่ฝั่งรถจักรยานยนต์ของลูกชาย

 

 

 

นายอนุศักดิ์ พ่อเด็กเล่าด้วยว่า ต่อมาได้มีพลเมืองดี เห็นใจเอาภาพที่ถ่ายวันเกิดเหตุ เอามาให้ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลูกชายนอนบาดเจ็บอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเองชัดเจน เพราะเป็นถนนสี่เลนแบบไม่มีเกาะกลางถนน

โดยเฉพาะร่องรอยการเฉี่ยวชนของรถตำรวจ ถูกชนบริเวณล้อหน้าขวา ไม่มีร่องรอยเหมือนการชนประสานงาแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย เห็นใจเพราะครอบครัวยังไม่ได้รับสินไหมทดแทนจากฝ่ายใด เนื่องจากรถจักรยายนต์ของลูกชายไม่ได้ต่อ พรบ.ขณะที่รถของตำรวจมีประกันชั้น 1

 

 

 

ด้าน พ.ต.อ.บุญสิทธุ์ ผดุงสุข ผกก.สภ.ทะเมนชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน พบว่ารถจักรยายนต์ข้ามเลนไปชนรถตำรวจที่อยู่ฝั่งขวาชัดเจน เป็นไปไม่ได้ที่ตำรวจจะยอมรับว่าผิด รวมถึงบริษัทประกันที่ยืนยันเช่นเดียวกันว่า ไม่สามารถจ่ายสินไหมทดแทนได้ ซึ่งหากญาติติดใจต้องให้ศาลตัดสิน

ขณะที่นายธนพล ผมดำหนา อายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ บอกว่า วันเกิดเหตุได้รับแจ้งจึงออกเหตุเพราะหน่วยกู้ชีพใกล้เคียงไม่อยู่ เมื่อไปถึงก็พบพยาบาล 2 คนซึ่งขับรถผ่านมาพอดี กำลังปั้มหัวใจผู้บาดเจ็บ แต่ยืนยันว่าผู้บาดเจ็บและรถจักรยายนต์อยู่ฝั่งซ้ายทางไปบุรีรัมย์ ส่วนรถตำรวจคู่กรณีจอดข้างถนนฝั่งซ้ายของรถยนต์ ห่างจากผู้บาดเจ็บประมาณ 100 เมตร

 

 

 

 

คลิป