วันที่ 28 พ.ค. 2562 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงหลังพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พูดคุยขอให้ร่วมรัฐบาล ว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับ พปชร. โดยเมื่อวานนี้ 27 พ.ค. เป็นเพียงการพูดคุยหลักการทำงานเท่านั้น ยังไม่มีการตกลงร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด โดยวันนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. จะมีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหาร กับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ของพรรคเพื่อกำหนดจุดยืนพรรค
นายราเมศ กล่าวว่า กรณีที่มีการพบปะพูดคุยกันระหว่างแกนนำ พปชร. กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการ ปชป. ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยในประเด็นเรื่องร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ประเด็นการพูดคุยเมื่อวานเป็นการพูดคุยถึงหลักการทำงานแนวทางในการดำเนินงานต่างๆ ซึ่งมีความชัดเจน ปชป.ยืนยันหลักในการทำงานที่ชัดเจนเพื่อบอกให้ พปชร.ได้รับรู้แนวทางในการทำงาน หลักการที่ 1 ปชป.ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้งภายใต้การปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หลักการที่ 2 จะยึดนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องมีการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด การยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในเรื่องของการประกันรายได้ เรื่องของพี่น้องเกษตรกร เรื่องของความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ชุดนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ นี่คือหลักการสำคัญของ ปชป.
ประการที่ 3 เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ มีหลายพรรคกำลังนำประเด็นนี้ไปต่อยอดพูดในทิศทางที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ในวันที่มีการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น ปชป.มีความชัดเจนมีจุดยืนที่ชัดแจ้ง ว่าเราไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนั้น แต่ท้ายที่สุดเมื่อประกาศเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน บ้านเมืองต้องเดินต่อไปข้างหน้า เข้าสู่กระบวนการระบบประชาธิปไตยถึงแม้ว่าจะเป็นระบบประชาธิปไตยที่ยังไม่เต็มใบ นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่พรรคการเมืองทุกพรรค จะต้องมาดูว่าตัวรัฐธรรมนูญมีสิ่งไหนที่พี่น้องประชาชนขาดตกบกพร่อง มีสิ่งไหนที่พี่น้องประชาชนสิทธิเสรีภาพลดน้อยถอยลง มีสิ่งไหนบ้างที่ไม่มีความชัดเจนในการพัฒนาประเทศกระบวนการในระบบประชาธิปไตยที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญนั้น มีหลายประการที่จะต้องแก้ไข นี่คือสาระสำคัญที่เราพูดถึงในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อจะให้บ้านเมืองเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างเต็มใบ ไม่มีการเอาประเด็นแก้รัฐธรรมนูญเพื่อต่อรองในการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล การแก้รัฐธรรมนูญนั้น เชื่อว่าพรรคการเมืองเกือบทุกพรรคเห็นตรงกันว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีการหยิบยกมาแก้ไขพิจารณา
หลักการต่างๆ นั้นก็ต้องมีการนำกลับไปพูดคุยใน พปชร. กลับไปคุยกับคณะกรรมการบริหารของพรรค เพื่อนำเสนอข้อมูลที่คุยกันเมื่อวาน ปชป.มีแนวทางหลักการที่พูดคุยกันตามแนวทางนี้ ผลเป็นอย่างไร พปชร.แจ้งกลับมา เมื่อแจ้งกลับมาแล้ว นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการ ปชป. ผู้ประสานงานกับพรรคการเมืองต่างๆ จะนำกลับมารายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. จึงได้มีการนัดประชุมวันนี้จะเริ่มต้น 17.00 น.คือการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ต่อจากนั้น 17.30 น. จะมีการเรียกประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกัน วาระการประชุมระบุไว้แล้วในวาระที่ 3 พิจารณาการประสานงานทางการเมือง หลังจากมีการประชุมแล้วก็จะมีการแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งว่าผลการประชุมรับทราบรายงานจากเลขาธิการ ปชป. ที่ประชุมได้มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล แน่นอนที่สุดว่า ปชป.แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น ปชป.ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของคนหนึ่งคนเดียว แต่สมาชิกพรรคผู้เป็นเจ้าของพรรคมีสิทธิ์มีเสียง อาจจะมีข่าวออกมาว่ามีเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคหลายส่วนหลายกลุ่มในเรื่องของการมีความเห็นว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.จะรับความคิดเห็นต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ
นายราเมศ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวหา ปชป. มีการต่อรอง ตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้คืบจะเอาซอก และการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า นายธนาธรควรกลับไปอ่านรัฐธรรมนูญให้แตกฉาน เพราะรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่าตำแหน่งประธานสภาฯ ให้เป็นไปตามมติของสภานั้น และการที่ ปชป.อาสาเป็นผู้นำทางนิติบัญญัติ ต้องแยกออกจากการระหว่างร่วมรัฐบาลกับไม่ร่วมรัฐบาล กับการดำเนินกิจการในทางนิติบัญญัติ
ภาพจาก Democrat Party, Thailand พรรคประชาธิปัตย์
©2018 CK News. All rights reserved.