จากกกรณีกลุ่มหญิงสาวผู้เสียหายทำงานเป็นโคโยตี้ที่ปรากฎในคลิปถูกลงโทษเวียนกันตบหน้าหญิงสาวและสาวทอมเนื่องจากขาดงานและทำผิดกฎในบ้านโมเดลลิ่งจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบบ้านพักในย่านบางขุนนนท์และนำตัวผู้เกี่ยวข้องไปสอบสวน ต่อมาวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มหญิงสาวผู้เสียหายบางส่วนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.)ให้ดำเนินคดีกับ "ป๋าเกิด" เจ้าของธุรกิจโมเดลลิ่ง และน.ส.นินิว ผู้ดูแลกลุ่มโคโยตี้และบ้านพัก ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องในความผิดเรื่องค้ามนุษย์นำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปีไปเต้นโชว์ตามสถานบันเทิงและดำเนินคดีป๋าเกิดที่บังคับให้สาวโคโยตี้เปิดเรือนร่างและมีเพศสัมพันธ์เพื่อแลกกับการทำงานเป็นโคโยตี้ในสังกัดตามข่าวที่เสนอนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าว onb news รายงายว่า วันที่ 27 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม) พ.ต.อ.มานะ กลีบสัตบุศย์ รอง ผบก.ปคม พร้อมด้วย พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.สรกฤช พันธ์ศรี รองผกก.1 บก.ปคม. ชุดจับกุมกก.1 บก.ปคม. ร.ต.อ.วิสูตร เต็งเฉี้ยง รองสว.งานสายตรวจ 1 บก.สปพ. ด.ต.ธนันทรัฐ ธนกิจนิรันดร์ ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 บก.สปพ. ด.ต. นรภัทร์ วชิรานุมากุล ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 บก.สปพ. ด.ต.วิโรจน์ ปานย้อย ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 บก.สปพ. ด.ต.วิสิทธิ์ จิตติพันธ์ ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 บก.สปพ. ร่วมจับกุมนางพรรณวรท หรือ นินิว ควบคุม อายุ 36 ปี ข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ชักจูงฯ หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจารไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด หลังมีหลักฐานตามสมควรในการหลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด ตามคดีหมายเลขดำที่ พค.64/2560 หมายจับระหว่างสอบสวนที่ 868/2560 ลงวันที่ 8 พ.ศ.2560 จับกุมบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเนินผักหวาน เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า กรณีภายหลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวน กก.1 บก.ปคม. ได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนคุยเด็กเกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปเต้นโชว์ตามสถาบริการที่จัดให้เฉพาะชาวญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท จากการสอบถามนางพรรณวรท หรือ นินิว ทราบว่ากลัวว่าจะต้องติดคุกร่วมกันกับนายเกิดใหม่ หรือป๋าเกิด รวยจริงนะ อายุ 46 ปี จึงได้หลบหนีหมายนัดของศาลอาญาไปอยู่พัทยา อย่างไรก็ตาม จึงให้คำแนะนำว่าถ้าจะไปประกันตัวกับศาลต้องเตรียมหลักทรัพย์ไปใช้ค้พฃำประกันตัว ส่วนกรณีรอประกันตัวแล้วไม่ไปศาลอาญานัดตามนัดจำนวนเงินสด 300,000 บาทที่ประกันตัวเอาไว้มีคนช่วยเหลือจากเพื่อน ทางผู้ต้องหาต้องปล่อยให้ถูกยึดไป เนื่องจากไม่ไปตามศาลนัด อย่างไรก็ตาม ได้ให้คำแนะนำให้ผู้ต้องหาให้การตามข้อเท็จจริงเท่าที่รับรู้เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณา หากเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะเป็นผลดีต่อผู้ต้องหาดังกล่าว
จากการสอบถามนางพรรณวรท หรือ นินิว ถึงป๋าเกิดทราบว่า นางพรรณวรท หรือ นินิว ไม่ทราบว่าป๋าเกิดเป็นอย่างไร แต่เห็นผ่านเฟซบุ๊คเมียป๋าเกิดทราบว่าศาลชั้นต้นตัดสินว่ามีโทษจำคุก 18 ปี จากนั้นตนจึงร้านเสริมสวยอยู่พัทยา 1 ปี แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิดกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด เป็นเหมือนเด็กๆ ที่เต้นทั่วไป เนื่องจากทำตามคำบอกของป๋าเกิดแนะนำจึงทำให้ถูกจับกุมดังกล่าว แต่ที่หลบหนีตามหมายนัดศาลนั้น มีคนกดดันกลัวว่าจะได้รับโทษจากสิ่งที่ได้ทำ เพราะคิดว่าศาลจะเชื่อผู้เสียหายที่เป็นเด็ก ประกอบกับห่วงลูกชายอายุ 8 ปีที่จะต้องดูแล แล้วคิดว่าคดีทำร้ายร่างกายที่กับกลุ่มทอมตามที่ปรากฎตามคลิปที่สน.บางกอกน้อยว่าเรื่องจบแล้ว จึงได้หลบหนีหมายนัดดังกล่าว ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปคม. และบก.สปพ. จับกุมได้ครั้งนี้ โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เอาเงินประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อนำตัวส่งศาลอาญาเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าวต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.