วันที่ 21 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวน ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน กรณีผู้เสียหายจำนวนมากมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์การกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา รวมจำนวน 18 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 18 รายแล้ว อยู่ระหว่างการฝากขัง
ตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอแจ้งความคืบหน้าดังนี้ ยอดผู้เสียหาย หลอกลวงลงทุน ของ บริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 19 ตุลาคม 2567 มีผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 165 ราย มูลค่าความเสียหาย 55.7 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 10 – 20 ตุลาคม 2567 สรุปยอด ณ เวลา 15.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 2,875 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 979 ล้านบาทเศษ
ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2567 รวมผู้เสียหาย 892 ราย มูลค่าความเสียหาย 207 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2567 มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 2,773 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 632 ล้านบาทเศษ
ปัจจุบัน ยอดรวมผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 5,648 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,611 ล้านบาทเศษ
ในส่วนของทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ทำการตรวจยึด รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 225 ล้านบาท มีดังนี้
1. รถยนต์จำนวน 29 คัน 2. บ้านและที่ดิน จำนวน 3 แปลง 3. เงินสด จำนวน 7,524,000 บาท 4. ทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ จำนวน 151 รายการ ได้แก่ นาฬิกา และของแบรนด์เนมต่างๆ 5. อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก
ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกกองบัญชาการเปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์คดีดิไอคอน กรุ๊ป ทั่วประเทศ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยมีศูนย์รับแจ้งเหตุของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นโมเดลต้นแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้เสียหาย ลดความยุ่งยากในการแจ้งความ ทั้งยังกำชับให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบดูแลการรับแจ้งความอย่างใกล้ชิด มิให้มีการปฏิเสธการรับแจ้งความโดยเด็ดขาด
©2018 CK News. All rights reserved.