วันที่ 15 ต.ค 2567 พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าร่วมการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นประธาน โดยการประชุมครั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้ข้อแสนอแนะในด้านต่าง ๆ นำไปสู่การ "ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ" ต่อการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานแบบบูรณาการให้มีความประสานสอดคล้อง และสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงาน อันจะทำให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งเพื่อสร้างความรู้จักและความสัมพันธ์ที่ดีในระดับผู้บริหาร ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ห้องศรีพัชรินทร สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โดยมีประเด็นสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การบริหารจัดการน้ำทั้งในสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำแล้ง การพัฒนามวลชน เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติงาน ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ 2568 เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงตามนโยบายของรัฐบาล เอื้อต่อการบริหารราชการแผ่นดิน  โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ การปฏิบัติงานอย่างบูรณาการร่วมกันของฝ่ายปกครอง พลเรือน ตำรวจ ทหาร รวมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน เพื่อให้ความร่วมมือ สนับสนุน และตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้ยั่งยืนสืบไป

ทั้งนี้ พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มอบนโยบายการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยกล่าวถึง กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านยาเสพติด คือ คณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่เร่งรัด กำกับ ตรวจสอบ ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ รวมถึงให้คำปรึกษา แนะนำ ส่งเสริม และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในการดำเนินงาน และประสานความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาชน ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำการบูรณาการการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม เลย หนองคาย บึงกาฬ มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี โดยให้ร่วมกันวางแผน อำนวยการ ประสานงาน และผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่รับผิดชอบ ดำเนินการ และปฏิบัติการ 1) สกัดกั้น ยับยั้ง และจับกุม ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ เข้ามาในประเทศ 2) ปราบปราม ทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติดและวงจรทางการเงินของกลุ่มนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน 3) ปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ตามแนวชายแดน  4) เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดนเพื่อต่อต้านยาเสพติด เฝ้าระวัง ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการแจ้งข่าว        ในพื้นที่รับผิดชอบให้มากที่สุดและยั่งยืน  และ 5) ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้ค้า ยาเสพติดและผู้ที่หลบหนีหมายจับเข้าไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานในทุกมิติทั้งองค์ความรู้ ทรัพยากร เพื่อให้การแก้ไขปัญหา    ยาเสพติดเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล

ต่อมาเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานพิธีเปิดโรงฝึกอบรมป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพน้อยที่ 2 (ทน.2) ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นสถานที่ในการจัดฝึกอบรม/จัดกิจกรรมให้กับกำลังพลและครอบครัวของกำลังพล พร้อมนี้ ได้สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดให้กับกำลังพลและครอบครัวของกำลังพล โดยกล่าวว่า ยาบ้า ยังคงเป็นยาเสพติดที่แพร่ระบาดหลักในประเทศไทย พื้นที่ผลิตมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และยาเสพติดไม่กลัวทหาร ไม่กลัวอาวุธ ยาเสพติดกลัวความรักของแม่ กลัวครอบครัวที่อบอุ่น และกลัวชุมชนที่เข้มแข็ง