วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่องค์การบริหารส่วนตำบลธาตุทอง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร  นางอุไรวรรณ สกุลปีบ ปลัด อบต.ธาตุทอง นายประเสริฐ เกตุนันท์ กำนันตำบลธาตุทอง  ได้ดำเนินการส่งมอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่รับมาให้กับผู้ที่ลงทะเบียน  ซึ่งปรากฏว่ามีชาวบ้านในตำบลมารับบัตร จำนวน 752 คน  โดยในอำเภอสว่างแดนดิน  มีผู้ลงทะเบียนและมีสิทธิ์ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหลายหมื่นคน   ทั้งนี้  รัฐบาลได้ออก 4 มาตรการช่วยเหลือชาวบ้านรากหญ้า โดยทุ่มงบประมาณ 38,000  ล้านบาท  แจกเงินปีใหม่ช่วยเหลือให้กับผู้มีรายได้น้อย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละ 500 บาท และช่วยค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ ตลอดจนค่าเกี่ยวข้าวอีกไร่ละ 1,500 บาท แต่ไม่เกินคนละ 12 ไร่ รวมเป็นเงิน ไม่เกิน  18,000 บาท  สร้างความพอใจแก่เกษตรกรรากหญ้า ผู้ด้อยโอกาส  และผู้สูงอายุ เป็นอย่างมาก

 

นายนพพร  วังกะสา  อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 52 หมู่ 2 ต.ธาตุทอง  ซึ่งมารับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  กล่าวว่า ตนรู้สึกพอใจที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกร ไม่ทอดทิ้งคนจน และให้ความช่วยเหลือ  ปีที่ผ่านมาถูกน้ำท่วมก็ช่วยเหลือมาโดยตลอด มาปีนี้ก็มีเงินออกมาช่วยเหลือจำนวนมาก เช่นเดียวกับตนที่ได้รับเงินค่าเกี่ยวข้าว 18,000 บาท ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน  เห็นว่ารัฐบาลดำเนินนโยบายนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน  ซึ่งตนจะนำเงินที่ได้รับไปซื้อปุ๋ย ค่าจ้างไถเตรียมดินทำนาต่อไป  ต้องขอขอบคุณ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกลุงตู่ ที่ไม่ทอดทิ้งประชาชนรากหญ้า  เช่นเดียวกับผู้ที่มารับบัตรคนอื่นๆ ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีใจที่มีสิทธิ์รับบัตร ต้องยกความดีให้นายกลุงตู่ ขอให้เป็นรัฐบาลต่อไป และขอให้มีความสุขความเจริญ พวกตนที่เป็นคนจนรากหญ้าจะคอยเป็นกองเชียร์ให้

 

 

ขณะที่ อสม.ในตำบลพันนา อ.สว่างแดนดิน ซึ่งได้มาประชุมที่ศาลาเอนกประสงค์ในบ้านพันนา หมู่ 1 กล่าวว่า พวกตนทำหน้าที่ อสม.มาตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปัจจุบัน  เป็นจิตอาสาที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับค่าตอบแทน  เมื่อรัฐบาลเห็นความสำคัญ อสม.ก็รู้สึกดีใจและมีกำลังใจที่จะทำงานมากขึ้น  และเป็นที่ทราบกันดีว่า อสม.คือตัวแทนของหมอ อสม.ทำทุกอย่างที่หมอสั่ง อยู่ใกล้ชิดประชาชน  ต้องขอบคุณรัฐบาลจริงๆ    ด้าน นายณัฐกานต์  ไชยรบ  สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร  เขตอำเภอสว่างแดนดิน  ลูกชาย นายชัยมงคล  ไชยรบ  นายก อบจ.สกลนคร  ว่าที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ  เขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งมีอำเภอสว่างแดนดิน  และอำเภอเจริญศิลป์  ประชากรกว่า 1 แสนคน  กล่าวว่า

 

“จากการที่ตนเข้ามาอยู่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ มีเหตุผลคือ มีนโยบายที่คล้ายกัน การทำงานจึงสอดคล้องกัน ขอบอกว่า จากบทเรียนที่ผ่านมาของการเมืองไทยมีแต่ความขัดแย้งทำให้ประเทศชาติมีแต่ความบอบช้ำ ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำพี่น้องประชาชนมีแต่ความขัดแย้ง  ตนในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่จึงต้องการเห็นความสงบของประเทศไทย  ดังบทเพลงชาติไทยท่อนหนึ่งที่ว่า  ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย   จึงอยากเห็นการเมืองที่มีความสามัคคี  และก็มีการพัฒนาไปพร้อมกัน ได้เห็นแนวความคิดของพรรคพลังประชารัฐ  ที่สอดคล้องกันเห็นการเมืองที่เหนือความขัดแย้ง   และตนเชื่อมั่นว่า  พรรคพลังประชารัฐ  จะพาพี่น้องอยู่เหนือความขัดแย้ง  และพัฒนาไปพร้อมๆกัน” นายณัฐกานต์ กล่าว