วันที่ 15 ก.ย. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. กับพวกร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว นายอนณหรือนายทศกัณฑ์ หรือชื่อเจมส์ อายุ 32 ปี
พฤติการณ์กล่าวคือ “เรือนวิปริต” เสียงสะอื้นของเด็กสาววัย 14 ปี นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ข้างเตียง กับภาพที่ผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้ากำลังตั้งกล้องเพื่อบันทึกภาพ ก่อนจับขังแล้วบังคับขืนใจเธอกว่า 7 วัน 7 และเรื่องราวสุดวิปริตมากมายเกิดขึ้นในบ้านพักแห่งนี้ เกิดขึ้นเมื่อห้วงวันที่ 31 ก.ค. ถึงวันที่ 7 ส.ค. 67
สืบเนื่องจากชุดสืบนครบาลได้สืบสวนติดตามตัว “เจมส์-ทศกัณฑ์” ซึ่งตระเวนก่อเหตุซ้อนแผนฉกโทรศัพท์อย่างแยบยลด้วยแผนประทุษกรรมการลวงให้ส่งของผ่านบริการรถรับจ้าง Grab แล้วใช้จังหวะช่องโหว่ลักโทรศัพท์เหยื่อเป็นจำนวนมาก โดยก่อเหตุลักษณะเดียวกันต่อเนื่องหลายคดีในพื้น สน.ปทุมวัน , สน.ทองหล่อ และ สน.หัวหมาก จนถูกออกหมายจับ ระหว่างที่ชุดสืบนครบาลไล่ล่าติดตามจับกุมตัว ได้ไปพบกับบุตรสาวของคนร้ายวัย 14 ปี แล้วเรื่องราวสุดสะเทือนใจได้แดงขึ้น โดยเธอได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลฟังว่า “คนร้ายเป็นพ่อแท้ๆของเธอ โดยในห้วงปลายเดือน ก.ค. 67 ระหว่างที่เธอนั่งบนรถยนต์กับพ่อ พ่อได้ชักชวนเธอให้ทำหนังผู้ใหญ่หรือที่เรียกว่า OnlyFan โดยได้พาเธอไปฉีดยาคุมที่คลินิกย่านทุ่งครุ ก่อนจะพาตัวเข้าไปในบ้านพักย่านคลองหลวง เธอพยายามขัดขืนแต่พ่อได้ข่มขู่พร้อมกับยึดโทรศัพท์ ก่อนจะขังเธอไว้ในบ้านพักจากนั้นได้เริ่มลงมือข่มขืนเธอกว่า 7 วัน 7 คืน ซ้ำยังออกไปตระเวนหาคนเพื่อให้มาข่มขืนเธอเพื่อจะถ่ายคลิป 18+ และพ่อยังเรียกภรรยา (คนใหม่) พร้อมกับชายแปลกหน้าที่หามาให้มาร่วมถ่ายคลิปพร้อมกับเธอ เธอถูกกระทำชำเราทุกวันจนทนไม่ไหวแล้ว จึงพยายามหลบหนีโดยสบโอกาสแอบเอาเล่นโทรศัพท์ทักไปบอกญาติแต่ถูกจับได้ถูกลงมือทำร้ายตบตีและข่มขู่ท้าทายว่าไม่กลัวตำรวจ ถ้ามาจะเอาขวานฟันให้หัวซึ่งท้ายสุดเธอสามารถออกจากบ้านมาได้จึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี”
โดยล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรี ได้อนุมัติหมายจับแล้วในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” แต่หลังจากเรื่องแดงขึ้นคนร้ายไหวตัว ทำลายหลักฐานถอดกล้องวงจรปิดในเรือนวิปริตก่อนหลบหนีออกนอกพื้นที่
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเช่าในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยขณะจับกุมเจ้าตัวอยู่กับแฟนสาวภายในบ้านพัก คนร้ายทำท่าที “ดึงเข้ม” ใส่ชุดสืบสวน ปฏิเสธว่ามิได้ลงมือข่มขืนบุตรสาวตัวเองและมิได้ทำเว็บโป๊ แต่เมื่อเค้นสอบขยายผล จนได้ข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้วางแผนกับแฟนสาวทำมิดีมิร้ายกับบุตรสาวจริง ไม่ว่าจะแอบวางยาและวางแผนการอื่นๆ และยังพบว่าคนร้ายเปิดเป็น Admin กลุ่มลับ “มิกิ” ไลฟ์สดโป๊เปลือยแนววิปริต โดยตระเวนให้แฟนของตัวเองไปนอนกับชายอื่นแล้วถ่ายไลฟ์สดจำนวนมาก และที่ทำให้อึ้งเพราะชุดสืบสวนพบแชทการวางแผนของคนร้ายที่จะให้ชายอื่น “มามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสาวตัวเอง” และยังพบหลักฐานการ “แบล็คเมล” หลอกให้เด็กสาววัย 15 ปี ถ่ายเรือนร่างแล้วขู่เอาเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท
ในชั้นจับกุม นายอนณ (สงวนนามสกุล) หรือ “เจมส์ทศกัณฑ์” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่ได้ทำหนังโป๊ แต่ที่ตำรวจพบคือการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนที่บุตรสาวแท้ๆของตนไปแจ้งความเพราะว่าตนไม่ยอมซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้ลูก ลูกเลยไปแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ย้ายที่อยู่บ่อยๆไม่ได้เป็นการหลบหนี แต่เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงเปลี่ยนที่อยู่ ยอมรับว่าทำคลิปโป๊จริง โดยจะให้แฟนคนปัจจุบันเป็นนักแสดงหลัก ตระเวนหาชายอื่นและโลเคชั่นอื่นๆเพื่อถ่ายทำ บางครั้งก็ให้ชายแปลกหน้า 2 คน มามีเพศสัมพันธ์กับแฟนตัวเอง โดยยอมรับว่าเป็นรสนิยมทั้งตนและแฟน แต่ยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนี้กับบุตรสาวตัวเอง เป็นเพราะเด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง”
หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการขยายผลพบพยานหลักฐานสอดคล้องไปทางคำให้การของฝ่ายผู้เสียหาย อีกทั้งยังพบหลักฐานการทำลายพยานหลักฐานและการหลบหนีของผู้ต้องหา และยังพบพยานหลักฐานที่เป็นความผิดอีกหลายข้อหา โดยยังพบว่ามีเด็กสาววัย 15 ปี กำลังตกเป็นเหยื่อการแบล็คเมลของคนร้ายอีกด้วย ซึ่งเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.