ไฟไหม้คอกวัว ควาย วัวเสียชีวิต แม่ควายถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ชาวบ้านสุดสงสาร


14 ส.ค. 2567, 12:42

ไฟไหม้คอกวัว ควาย วัวเสียชีวิต แม่ควายถูกไฟไหม้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ชาวบ้านสุดสงสาร




วันนี้(13 สิงหาคม 2567 )ไอ้ เกิดเหตุเพลิงไฟไหม้คอก วัว ควาย  ของ ชาวบ้านย่างสดคากองเพลิง7ตัวบาดเจ็บอีกนับ10 ตัว  เจ้าของคอกวัวน้ำตาตกไม่ทราบสาเหตุวอนหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้คอกวัวของนายสัญญา แก่นจันทร์ อายุ50ปีบ้านเลขที่194//1ชาวบ้านจังเอิดม.9 ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ที่เกิดเหตุห่างจากหมู่บ้านประมาณ100 เมตร เป็นกระท่อมที่ปลูกเอาไว้ให้วัวและควายอยู่รวมกันจำนวน16ตัว  และมีอุปกรณ์การเกษตรเครื่องสูบน้ำรถไถนาและรถจยย.ที่นำมาเก็บไว้ที่กระท่อมปลายนาถูกเพลิงไหม้วอดไปหมดทั้งหมดความเสียหายยังประเมินไม่ได้

หลังจากเกิดเหตุ น.ส.จันทรา โพธิ์คำ   ปศุสัตว์อำเภอศีขรภูมิ  น.ส.จารุพิชญา พิทักษ์ เจ้าพนักงานสัตวบาลชำนาญการ  นายทนงศักดิ์   สมหวัง  เจ้าพนักงานสัตวบาลและนายวรวิชบุตร  ศรีวงศ  จ้างเหมาบริการป้องกันโรคฯดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนดูแลสุขภาพโค-กระบือจากสาเหตุเพลิงไหม้พบโคทั้งหมดจำนวน 9  ตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเพลิงไหม้  2ตัวตาย5 ตัวและกระบือจำนวน7ตัวได้รับบาดเจ็บจากเพลิงไหม้จำนวน5ตัวตาย2 ตัวในกองเพลิงรวมตาย7 ตัว

จากกาสอบถามนายสัญญาเจ้าของบ้านบอกว่า  ในวันเวลาเกิดเหตุตนเองได้ไปเกี่ยวหญ้าให้โคและกระบือกินที่ตำบลนารุ่งในระหว่างที่เกี่ยวหญ้าอยู่นั้นตนเองได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้คอกวัวที่กระท่อมปลายนาจึงได้ขับรถเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่กว่าจะมาถึงเพลิงได้ลุกไหม้คอกโคกระบือนอนตายกันเกลื่อนคอกและได้รับบาดเจ็บนอนระทมระทวยอยู่ภายในคอกตนเองไม่รู้จะทำอะไรพูดไม่ออกและเหตุที่เกิดขึ้นก็ไม่ทราบมาจากสาเหตุอะไรตนเองเสียใจมากส่วนสิ่งของที่เสียหายทั้งหมดยังประเมินค่าไม่ได้

ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดเหุต  นายพิศาล   เค้ากล้า   นายอำเภอศีขรภูมิ  ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบและหาทางออกให้การช่วยเหลือนายสัญญาเจ้าของคอกวัวอย่างเร่งด่วนและรายงานให้ทางจังหวัดสุรินทร์ได้รับทราบพร้อมกับให้สรุปหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้มาจากสาเหตุอะไรเนื่องจากว่ากระท่อมหลังดังกล่าวไม่มีไฟฟ้าใช้และเพลิงลุกไหม้ได้อย่างไรในส่วนของการช่วยเหลือนั้นทาง  อบต.ตรึม ก็ต้องเข้ามาหาข้อสรุปด้วยกัน














©2018 CK News. All rights reserved.