วันที่ 12 ส.ค. 2567 พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. ร่วมสั่งการและนำตำรวจ บก.ปส.3 และบก.ข่าวกรองยาเสพติด กว่า 80 นายร่วมติดตามสืบสวนสะกดรอย และจับกุมผู้ทั้งขบวนการรวมจำนวน 10 คนได้ที่ ท่าเรือของรีสอร์ทเกาะนกใหญ่ ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และบริเวณใกล้เคียงได้พร้อมตรวจยึดของกลางได้แก่ ไอซ์บรรจุในห่อชาตราทุเรียน ใส่ในกระสอบ ๆ ละ 20 ห่อ พบอยู่บนเรือสปีดโบ้ทที่จอดเทียบท่า 23 กระสอบ พบในรถยนต์กะบะแบบตู้ทึบ ทะเบียน จ.ลพบุรี อีก 52 กระสอบ รวม 75 กระสอบ น้ำหนักรวม 1,500 กก., รถยนต์เก๋ง จำนวน 4 คัน, รถยนต์กะบะ 2 คัน, อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก
โดยจากการสืบสวนขยายผลของ บก.ข่าวกรองยาเสพติด แก็งค์ขนยาเสพติดข้ามชาตินี้จะได้ใช้เรือสปีดโบ้ทไปส่งยาเสพติดเรือสินค้ากลางทะเล ซึ่งเป็นเครือข่ายลูกน้องของกัปตันตุ้ยหรือนายชาญชัยฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลำเลียงไอซ์ 2,000 กก.ข้ามชาติ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2566 ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้หลบหนีไปประเทศเมียนมาและยังคงอยู่เบื้องหลังคอยสั่งการเครือข่ายของตน โดยจากการสืบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567 นายอนันต์ฯ อายุ 50 ปี อาชีพไต้ก๊งเรือ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า เป็นหน.ทีมลำเลียงทางทะเลให้กัปตันตุ้ย กำลังเดินทางด้วยเครื่องบินจาก จ.สงขลามาที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับนางสาวศุภรัตน์ฯ อายุ 33 ปี แฟนสาว จึงได้จัดกำลังติดตาม จนพบว่าทั้งสองได้เช่ารถยนต์เก๋งเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปอ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จนกระทั่งเข้าไปที่รีสอร์ทเกาะนกใหญ่ ซึ่งมีท่าเทียบเรือและอยู่ไม่ไกลจากจุดออกทะเลที่ปากน้ำแขมหนู และได้ไปพบกับนายจารุชัยฯ อายุ 51 ปี , นายนพเก้า ฯ อายุ 55 ปี ,นายแดง(นามสมมุติ )อายุ 16 ปี, ซึ่งเปิดเช่าห้องรออยู่ที่รีสอร์ทดังกล่าว ต่อมาพบเรือสปี๊ดโบ้ทสีขาวเข้ามาจอดเทียบท่า นายนพเก้าฯและพวกได้เข้าไปตรวจเช็คสภาพเรือให้พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าซุ่มดูและสะกดรอยติดตาม จนกระทั่งวันที่ 10 ส.ค.67 เวลาประมาณ 20.30 น. นายอนันต์ฯ,น.ส.ศุภรัตน์ฯและนายจารุชัย ฯได้พากันขับรถยนต์ตามกันไป แล้วพากันลงจากรถไปยืนรอที่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู ขณะเดียวกันที่รีสอร์ทเกาะนกใหญ่พบรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คัน ขับนำรถกะบะตู้ทึบเข้าไป
จากนั้นรถยนต์กะบะได้ถอยไปใกล้รถสปีดโบ้ทที่จอดรอ ทุกคนช่วยกันขนลำเลียงกระสอบหนักจากรถยนต์กะบะตู้ทึบลงไปในเรือ เจ้าหน้าที่จึงเข้านำกำลังเข้าจับกุมนายนพเก้ากับพวกและกลุ่มคนที่ขับรถยนต์เก่งทั้งสองคันและรถกะบะดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือนายวัชระฯอายุ 44 ปี ,น.ส.ณัฐนราฯ อายุ 32 ปี(แฟนนายวัชระฯ) น.ส.นภธร ฯ อายุ 38 ปี และนายวิชาญฯ อายุ32ปี พร้อมของกลางดังกล่าว และจับกุมนายอนันต์ฯ กับพวกได้ที่บริเวณสะพานปากน้ำแขมหนู จากการซักถามทราบว่านายวัชระฯและน.ส.ณัฐนรา เป็นหัวหน้าทีมลำเลียงไอซ์ทางบก โดยมี น.ส.นภธรฯ ช่วยนำทาง นายวิชาญฯ เป็นคนขับกะบะ และพากันไปรับไอซ์ของกลางจากริมถนนพระรามสอง พื้นที่ จ.สมุทรสาคร ตามคำสั่งของนายวัชระฯ ส่วนนายอนันต์ฯรับว่า เป็นคนจัดหาทีมคนขับเรือสปีดโบ้ท คือนายนพเก้าฯ และคนงานประจำเรือ 2 คน คือนายอลงกรณ์ฯและนายแดงฯ และนายอนันต์ฯกับนายจารุชัยฯ ออกมารอที่ปากน้ำแขมหนูเพื่อรอดูเมื่อเรือสปีดโบ้ทขนยาเสพติดออกทะเลแล้ว จึงจะโทรรายงานกับตันตุ้ยทราบ ส่วนนายจารุชัยฯมีหน้าที่หาท่าเทียบเรือและซื้อเรือสปีดโบ้ทและอุปกรณ์ต่างๆ โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 10 ดังกล่าวจะรับคำสั่งจากกัปตันตุ้ยฯ โดยจะได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท ได้มีการลำเลียงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3
ขณะจับกุม พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ฯ ผบช.ปส.ได้เดินทางเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจดูของกลางและซักถามผู้ต้องหาด้วยตนเอง และเผยว่าการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมได้พร้อมกันทั้งขบวนการลำเลียง ทั้งทีมลำเลียงทางบกและทางทะเล ขอเตือนผู้ที่คิดจะมาสู่ขบวนการเช่นนี้ ครั้งแรกนั้นอาจรอด แต่ครั้งต่อมาท่านมีโอกาสถูกจับกุมและโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ไม่คุ้มกับค่าจ้างที่ได้รับ
©2018 CK News. All rights reserved.