วันที่ 7 ส.ค.2567 ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายพิชชานันท์ฯ อายุ 48 ปี ฐาน “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต ผลิตนำเข้าและจำหน่ายอาหารให้บริการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 และขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิต” โดยจับกุมได้บริเวณริมฟุตบาทในพื้นที่ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทั่วไปและบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ไปรายงานตัวต่อศาลตามนัดหมาย ในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” จึงเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับ โดยได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายพิชชานันท์ฯ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ได้ยืนอยู่บริเวณริมฟุตบาทหน้าซอยประชาสงเคราะห์ 8 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะเข้าจับกุมพบว่า ผู้ต้องหาได้มีการขายน้ำกระท่อม จึงได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด คือ “เป็นการต้มน้ำกระท่อมหรือผสมในอาหารเพื่อจำหน่าย รวมถึงการแจกจ่ายเพื่อประโยชน์ทางการค้าขาย” เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยมีโทษตามมาตรา 50 จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท ซึ่งในการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา พบว่ามีอาวุธปืนอยู่ในครอบครอง จึงถูกดำเนินคดีในข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” เพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา และได้ดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้กับศาลอาญารัชดาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมในคดี “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษฯ” ปี 2552 และในคดี “เสพยาเสพติดให้โทษฯ” ปี 2558 อีกด้วย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย บุคคลใดได้รับหมายเรียกจากศาล, หมายเรียกจากเจ้าพนักงานตำรวจ หรือมีการะทำความผิดถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือเข้าพบเจ้าพนักงานตำรวจตามที่ได้นัดหมายไว้ หากขัดขืน ละเว้น ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือไม่เข้าพบเจ้าพนักงานตำรวจตามหมายเรียก อาจเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีและถูกออกหมายจับได้
©2018 CK News. All rights reserved.