แม่ชาวญี่ปุ่น บินมาไทยตามหาลูกชาย หลังขาดการติดต่อ 4 ปี ครั้งสุดท้ายส่งไลน์มาว่าป่วยหนักขอเงิน 1 ล้านเยน


5 ส.ค. 2567, 19:31

แม่ชาวญี่ปุ่น บินมาไทยตามหาลูกชาย หลังขาดการติดต่อ 4 ปี ครั้งสุดท้ายส่งไลน์มาว่าป่วยหนักขอเงิน 1 ล้านเยน




วันที่ ส.ค. 2567 ที่สน.คลองตัน นางโยชิมิ นิชิ (MISS YOSHIMI NISHI) อายุ 66 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้เสียหาย พร้อมครอบครัว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญผกก.สน.คลองตัน และ ร.ต.อ.สถาพร โสตถิยิ้ม รอง สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน  เพื่ิอแจ้งการหายตัวไปของว่านาย ทากาชีโร่ นิชิ (MR.TAKAHIRO NISHI ) อายุ 39 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกชาย ได้หายตัวไป หลังเดินทางมาทำงานที่ประเทศไทย โดยติดต่อกับลูกชายครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.63 ผ่านทางแอปฯไลน์ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก

ต่อมาผู้เสียหายจึงติดต่อมายังสถานฑูตญี่ปุ่น โดยสถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย แจ้งว่า นายทากาชีโร่ฯ (TAKAHIRO NISHI) ถูกจับกุมตามหมายจับตามคดีอาญาเลขที่ 797/2563 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ส่งดำเนินคดีที่ศาลแขวงพระนครใต้ ต่อมานายทากาชีโร่ฯ ได้หนีประกันในชั้นชั้นศาล และได้มีหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.321/2565

ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย.66 ผู้เสียหายได้รับข้อความทางอีเมล แจ้งว่านายทากาชีโร่ฯ มีอาการป่วยหนักต้องใช้เงิน ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารญี่ปุ่น จำนวน 1 ล้านเยน จากนั้นวันที่ 21 มิ.ย.66 ได้มีอีเมลมาหาผู้เสียหายอีกครั้งระบุว่า ต้องใช้เงินอีก 300,000 เยน แต่ผู้สียหายไม่ได้โอนเงินให้ไป จึงตรวจสอบกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่านายทากาชีโร่ฯ(ลูกชาย) เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.63 ผ่านด่าน ตม.หนองคาย และมีการต่อวีซ่าล่าสุดที่ ตม.นครสวรค์ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 และจะสิ้นสุดการอนุญาตเมื่อปี 2565 โดยนานทากาชีโร่ฯ ยังไม่ได้มีการเดินทางออกจากประเทศไทย ผู้เสียหายจึง้ดรงว่าลูกชายจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามหาบุตรชายของผู้แจ้งต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 กล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีการประสานงานไปยัง สตม. เพราะทางครอบครัวพึ่งเดินทางเข้าแจ้งความว่ามีบุคคลสูญหายในวันนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นขบวนการของการตรวจสอบ โดยจะมีการไล่เช็คว่าประกันตัวไปอย่างไร เมื่อไร และใครเป็นผู้ประกัน รวมไปถึงพักที่ไหนอีกด้วย





คำที่เกี่ยวข้อง : #ญี่ปุ่น  









©2018 CK News. All rights reserved.