วันที่ 22 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB โพสต์ข้อความ “สารวัตรแจ๊ะไม่ได้หายไปไหน” ผู้การจ๋อส่งไปผจญภัยชายแดนบูรพา ก่อนรวบตัว “บู๊” พี่เขยแจ๊ส ชวนชื่น ตามหมายจับศาลมีนบุรี หลังผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ นอกจากจะไลฟ์สด คุกคามฝ่ายผู้เสียหายไม่เลิก “ยังกล้ามาท้าทายระบบ”
สำหรับ นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ญาติภรรยาของแจ๊ส ชวนชื่น ได้ก่อปัญหาไว้มากมาย ทั้งเรื่องเงินที่ต้องตามใช้หนี้ให้ แฉเรื่องแม่ต่างๆ นานา จนทั้งคู่เริ่มทนกับพฤติกรรมไม่ไหว ประกาศตัดญาติขาดมิตรไปแล้ว รวมถึงประเด็นขโมยขึ้นบ้าน ซึ่งทั้งคู่ได้แจ้งความไว้ที่ สน.มีนบุรี
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ได้ไลฟ์สดใน TikTok ว่า ได้พังประตูบ้านแล้วเข้าไปลักเอารองเท้า ที่ แจ๊ส สะสมไว้ไปแจกจ่ายให้กับบุคคลภายนอก แจงเลยส่งหลักฐานให้ตำรวจ ผ่านไปที่บ้านเห็นประตูหน้าบ้านแตก เลยแจ้งตำรวจเข้าไป พบมีร่องรอยคนอยู่ และรองเท้าหายากหายไปหลายคู่ และยังพบอุปกรณ์เสพยา ถุงยางอนามัยทั้งใช้แล้ว
นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความ ผ่านโซเชียลส่วนตัวไว้ว่า “มาอวยพรร้านใหม่มึง เสียดายไม่เจอกันนะ ใกล้กันล่ะมึงท้ากูอีกทีนะมึง ไอนักเลง191 เร็วๆ นะกูรออยู่ทั้งสองผัวเมีย” พร้อมเช็คอิน อยู่ที่ ท่าขี้เหล็ก, รัฐชาน, พม่า แต่รูปถ่ายอยู่หน้าร้าน JSPKK Store
ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ส่ง พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. หรือ สารวัตรแจ๊ะ นำทีมเข้าจับกุมตัวนายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ได้ที่ชายแดน จ.สระแก้ว
พฤติการณ์กล่าวคือ เรื่องราวมหากาพย์ของ นายภูมิพัฒน์ หรือบู๊ ที่ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของนักแสดงชื่อดัง (แจ๊ส ชวนชื่น) และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ออกหมายจับ โดยเจ้าตัวไม่ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ยังคงหลบหนีและโพสข้อความเฟสบุ๊ค และไลฟ์สด ตอบโต้ ยั่วยุ คุกคาม ฝ่ายผู้เสียหายจนกลายเป็นเรื่องบานปลายตามที่เป็นกระแสสังคมในตอนนี้ เรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เพราะได้เข้าไปรับชมไลฟ์สดของบู๊ มีการกล่าวท้าทายมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้ อันเป็นการแสดงถึงความไม่เกรงกลัวกฎหมาย “เพื่อมิให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะตะลุยชายแดนบูรพา ตามความเรียกร้องขอของประชาชนที่มาคอมเมนท์ในโลกโซเชียล โดยมีการบูรณาการสืบสวนร่วมกับ พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้วนำกำลัง สืบสวน จ.สระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้วร่วมสืบสวนติดตาม แต่แล้วชุดสืบสวนก็ต้องพบว่าเป็น “งานสุดหิน” เพราะความยากจากสภาพแวดล้อม การติดตามแทบจะไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ยังถูกซ้ำด้วยสายข่าว “กลุ่มผี” ที่คอยรายงานทุกความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ให้บู๊ทราบตลอดทำให้ชุดสืบสวนต้องตามหลังก้าวหนึ่งอยู่ร่ำไป เจ้าตัวเหมือนชอบใจโพสข้อความยั่วยุไล่ให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังไปจากพื้นที่ ความกดดันเริ่มถาโถมใส่ชุดสืบสวนหลังใช้เวลาหลายวันแล้วยังไม่เจอตัว
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ เปิดศึกชิงไหวชิงพริบสั่ง “ถอนกำลัง” ออกจากพื้นที่ “แสร้งล้มเลิกภารกิจ” ให้ตายใจก่อน “ทิ้งทุ่น” ทิ้งมือดียังคงแฝงตัวเป็นวนเวียนอยู่ กระทั่งได้พบกลุ่มผีสายข่าวของบู๊และได้สะกดรอยติดตามไปจนกระทั่งพบตัวเป็นๆ ช่วงชิงจังหวะนำกำลังปิดเกมได้ในที่สุด
จับกุมที่ จุดตรวจทหารพรานที่ 1201 ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ในชั้นจับกุม นายประพรฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ในทางคดีตนไม่ได้เป็นคนขโมยเอารองเท้าไปตามที่ถูกแจ้งความ ตนเองโดนกลั่นแกล้งโดยใครบางคนเพราะตนเป็นคนชอบพูดตรงๆ แล้วตนเองก็เป็นคนที่ภาษีไม่ดีในวงเครือญาติ เพราะตนเองเคยก่อคดีร้ายแรงหลายคดี และจากความเกเรในสมัยก่อนจึงค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองหนีเก่งคาดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ เลยพลั้งเผลอท้าทายเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้ง ขอโทษที่ทำลงไป ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ยอมรับว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่มาจับกุม จะกลับไปกรุงเทพฯ เพื่อชำระแค้นไอพวกนี้ให้หมด”
หลังจับกุมตัวได้ นำตัว นายภูมิพัฒน์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า “เราไม่ขอรับรางวัลแต่อย่างใด เราทำตามหน้าที่ที่ประชาชนต้องการที่พึ่งพิง แม้ท่าน(ผู้เสียหาย)จะเป็นผู้มีชื่อเสียง แต่อีกมุมหนึ่งท่านก็คือประชาชนคนหนึ่ง เรารับรู้ความทุกข์ใจแล้วว่ามันมากเพียงใด และจากพฤติกรรมของผู้ต้องหามีลักษณะ คุกคาม ให้ร้ายกับฝ่ายผู้เสียหาย ซ้ำยังแสดงออกถึงความไม่เกรงกลัวและท้าทายกฎหมาย ถือเป็นภัยสังคม ต้องใช้มาตการขั้นเด็ดขาดเพื่อมิให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”
©2018 CK News. All rights reserved.