สืบนครบาล ร่วมสืบ 3 สืบหนองจอกเปิดปฏิบัติการทลายแก๊ง “บังซิน” หลังกราดยิง 16 นัด กลางถนนย่านหนองจอก


7 มิ.ย. 2567, 19:59

สืบนครบาล ร่วมสืบ 3 สืบหนองจอกเปิดปฏิบัติการทลายแก๊ง “บังซิน” หลังกราดยิง 16 นัด กลางถนนย่านหนองจอก




วันที่ 7 มิ.ย.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์  รอง ผกก.1 บก .สส.บช.น.  พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.  พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น.  และ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สน.หนองจอก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล ชุดพยัคฆ์ร้ายเทพนคร สืบ บก น 3 สน.หนองจอก ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว

นายศุภณัฐ   สลับสี หรือบังซิน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 แขวงคลองจั่น เขตบางกระปิจ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.776/2567 ลงวันที่ 4 พ.ค. 67 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน” จับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 1 หมู่ 6 ถ.คลองสิบสาม แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพฯ

พร้อมด้วยของกลาง
1.ปืนยาว จำนวน 2 กระบอก
2.หมวกกันน็อค 18. ใบ
3.เสื้อที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 ชุด



พฤติการณ์กล่าวคือ “หนองจอกซิตี้” ตะเข็บชายแดนกรุงเทพที่ขึ้นชื่อเรื่อง “ความเถื่อน” โดย เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 67 เวลาประมาณ 23.30 น. เกิดเหตุมีแก๊งอันธพาลขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 7 คัน รวมกว่า 11 คน สวมหมวกกันน๊อคเต็มใบปกปิดใบหน้า ไล่ยิงคู่อริกว่า 16 นัด กลางถนน บริเวณหน้าร้านหมู่จุ่ม ตำแซ่บ เลียบวารี ถ.เลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ทำให้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวและรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนน พากับหลบเข้ากำบังหนีตายเกรงว่าจะถูกลูกหลง โชคดีที่กระสุนปืนมิได้โดนผู้ใดให้ได้รับบาดเจ็บ “กรรมติดจรวด” เพราะกลุ่มคนร้ายขับรถเกี่ยวกันเองทำให้ล้มได้รับบาดเจ็บ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองจอก สามารถควบคุมตัวไว้ได้ 4 ราย ซึ่งจากการขยายผลทำให้ทราบว่า นายศุภณัฐ สลับสี หรือบังซิน หัวโจกของแก๊ง และ นายชนาภัทร เล็กขำ หรือคิม เป็นผู้ที่เหนี่ยวไกเปิดฉากยิงใส่คู่อริ ซึ่งต่อมาทั้งสองรายนี้ก็ได้ถูกออกหมายจับ โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เล็งเห็นแล้วว่าพฤติกรรมของแก๊งผู้ก่อเหตุนั้นอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และสร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในพื้นที่หนองจอก โดยสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือผู้การจ๋อ ผบก.สส.บช.น. ดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยส่งชุดสารวัตรแจ๊ะ และทีมพยัคฆ์ร้ายเทพนครนำโดย  พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.  ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบ “รังปลวก” เซฟเฮ้าส์ลับที่เป็นจุดรวมพลของแก๊งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทริมขอบ จ.กรุงเทพฯ โดยในเช้าวันที่ 7 มิ.ย. 67 พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้เปิดปฏิบัตการ “ทลายแก๊งบังซิน” โดยนำกำลังชุดสืบนครบาล , กก.สส.บก.น.3 และ สืบสวน.สน.หนองจอก เข้าตรวจค้น 2 จุด ในพื้นที่ย่านหนองจอก

โดยสามารถจับกุมตัว นายศุภณัฐ สลับสี หรือบังซินหัวหน้าแก๊งได้ขณะนอนกบดาลอยู่ภายในเซฟเฮ้าส์ ซึ่งจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาว 2 กระบอก หมวกกันน็อคกว่า 20 ใบ และจากการตรวจสอบพบว่าเซฟเฮ้าส์แห่งนี้จะเป็นที่รวมตัวของกลุ่มนักศึกษาอาชีวะชื่อดังย่านหนองจอก แต่ส่วนใหญ่จะไม่มีสถานะเป็นนักศึกษาแล้ว แต่ยังรวมตัวรวมกลุ่มแสดงพลังเช่นนี้อยู่เป็นประจำและล่าสุด นายชนาภัทรฯ ผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนีได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ สน.หนองจอก เพื่อขอมอบตัวแล้ว



ในชั้นจับกุม นายศุภณัฐฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ในคืนวันเกิดเหตุ ตนเองและพวกขับรถจักรยานยนต์ไปตามท้องถนนและได้ขับสวนกับกลุ่มใดไม่ทราบ แต่เห็นว่ามีการชูนิ้วกลางขึ้นมาใส่กลุ่มของตน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงไปแต่ไม่โดนใคร โดยหลังเกิดเหตุก็ได้นำปืนไปทิ้งหมดแล้วเพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะต้องตามมาจับแน่ๆ และไม่คิดจะต่อสู้เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ และยืนยันว่าการรวมตัวที่เซฟเฮ้าส์นี้เป็นแค่การมาตั้งวงกินน้ำกระท่อม ไม่ได้ไปก่อความวุ่นวายใดๆ ส่วนหมวกกันน็อคจำนวนมากในบ้านนั้นเพราะเวลาคนไปๆมาๆก็จะชอบทิ้งไว้ที่บ้านของตน ยืนยันว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้มีไว้ทำกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น ส่วนเสื้อดอนผีบินในบ้านนั้นยืนยันว่าตนเองซื้อมาเองจริงๆไม่ได้ไปตบใครมา”

หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่ง สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า “หลังจากผมทราบเรื่องนี้ ผมให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก การรวมแก๊งของวัยรุ่นแล้วไปไล่ยิงกันบนท้องถนนมากกว่า 16 นัด มันเหตุอุกฉกรรจ์ที่ร้ายแรง ถือโชคดีที่ไม่มีใครถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แก๊งแบบนี้จะมีอยู่จากการรวมตัวกันของเหล่าอันธพาลตามที่ต่างๆ ซึ่งจะต้องถูกปราบปรามให้หมดสิ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนทุกคน ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนหากผู้ใดมีเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา  ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.  และ พล.ต.ท.สำราญ  นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.





คำที่เกี่ยวข้อง : #สืบนครบาล  









©2018 CK News. All rights reserved.