วันที่ 10 พ.ค.2567 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เห็นว่ายังมีรายจ่ายต่อวันเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะนี้ยังมีความผันผวนต่อเนื่องจากสถานการณ์ด้านสงคราม และเศรษฐกิจ
กบน. จึงมีมติลดอัตราเงินชดเชยประเภทน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 จาก 3.08 บาท/ลิตร เป็น 2.58 บาท/ลิตร เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประเภทน้ำมันดีเซลลดลงประมาณวันละ 35.42 ล้านบาท จากวันละ 216.99 ล้านบาท เป็น 181.57 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันประเภทดีเซลในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกประเภทน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร เป็น 31.44 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป
สำหรับการพิจารณาดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่7 พ.ค. 2567 ที่มีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ถึง 31 ก.ค. 2567 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาระค่าของชีพของประชาชนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ และการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม กบน.จะพิจารณาลดการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแบบค่อยเป็นค่อยไปให้เป็นไปตามช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ผันผวนมากจนเกินไป และกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนให้น้อยที่สุด
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 5 พ.ค. 2567 ติดลบ 109,186 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 61,640 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,546 ล้านบาท
©2018 CK News. All rights reserved.