วันที่ 22 เม.ย.67 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเศช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐนากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ, พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา,ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างโรงงานผลิตยารักษาเห็บหมัดเถื่อนในพื้นที่ เขตลาดกระบัง ตรวจยึดของกลางกว่า 40,450 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า
500,000 บาท
สืบเนื่องจาก กก.4 บก.ปคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ทำการตรวจสอบสถานที่ผลิตยา
สำหรับหยดกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัขและแมวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากนำมาใช้ อาจเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการรักษา ให้มีอายุชัยเฉลี่ยน้อยลงกว่าวัยอันควร เกิดภาวะช็อก หมดสติ หรืออาจเสียชีวิต แม้ยาดังกล่าวไม่มีผลโดยตรงกับมนุษย์แต่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบถึงกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิต สถานที่จัดเก็บ และพบว่ามีการลักลอบผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสัตว์ปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้นเข้าตรวจคันสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 จุดได้แก่สถานที่จัดเก็บสินค้าบ้านพักในพื้นที่ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อฟิติก (ปลอม) จำนวน 300 ขวด
สถานที่ผลิต และจำหน่าย บ้านพักในพื้นที่ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตรวจยึด ผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัขและแมวยี่ห้อต่างๆ, วัตถุดิบที่ใช้ผลิต รวมทั้งฉลาก บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์ สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อฟิติก (ปลอม) จำนวน 805 ขวด
2. ผลิตภัณฑ์ สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดแมว ยี่ห้อ Front 3- 1 ฉลากสีฟ้า จำนวน 295 ขวด
3. ผลิตภัณฑ์ สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อ Front 3- 1 ฉลากสีเขียวอ่อน จำนวน 34 ขวด
4. ผลิตภัณฑ์ สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อ Front 3- 1 ฉลากสีส้ม จำนวน 48 ชวด
5. ผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อ Detick จำนวน 35 ขวดผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัข ยี่ห้อ Alprocide จำนวน 98 ขวด
7. ยารับประทานกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัข ยี่ห้อ Eก-Dex 8000 ฉลากระบุ ตัวยาสำคัญ
vermectin (ยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับ) จำนวน 360 กล่อง
8. ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก ยี่ห้อ เอธีนา 25 (ฟิโพรนิล 25%) จำนวน 14 ขวด
9. ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวก ยี่ห้อ เอธีนา 25 (ฟิโพรนิล 25%) ผสมแอลกอฮอล์ จำนวน 2 ขวด
10. สติ๊กเกอร์ยี่ห้อฟิติก, ซีอุส, Front 3 in 1 และ Detick จำนวน 11,900 ชิ้น
11. กล่องบรรจุภัณฑ์ จำนวน 3,085 ชิ้น
12. ฝาครอบชุดยาเห็บหมัด จำนวน 14,650 ชิ้น
13. แอลกอฮอล์ จำนวน 1 แกลอน
14. ไซริ้ง จำนวน 90 ชิ้น
15. จุกใน จำนวน 2,500 ชิ้น
16. ฝาอลูมิเนียม จำนวน 10,000 ชิ้น
17. จุกยาสีเทา จำนวน 10,000 ชิ้น
18. ขวดแก้วใส 1,000 ชิ้น
รวมตรวจค้น 2 จุด ตรวจยึดวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ปลอม จำนวน 1,105 ขวด, วัตถุอันตรายชนิด
ที่ 3 ซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายสาธารณสุข(วอส.)จำนวน 460 ขวด, ยารับประทานกำจัดเห็บหมัดสำหรับสุนัข ยี่ห้อ En-Dex 8000 (ยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับ) จำนวน 360 กล่อง, ผลิตภัณฑ์กำจัดปลวกที่ใช้เป็นส่วนผสม, ฉลาก บรรจุภัณฑ์ ฝ่าอลูมิเนียม และขวดบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ผลิต จำนวน 38,825 ชิ้น รวม
ทั้งสิ้น 40,450 ชิ้น จากการสืบสวนทราบว่าผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัขยี่ห้อฟิติกที่ถูกปลอมนั้น ได้รับอนุญาตให้ผลิตและจัดจำหน่าย
จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมี บริษัท เคมแฟค จำกัดเป็นผู้ผลิต ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่กลุ่มเครือข่ายดังกล่าว ได้ฉวยโอกาสปลอมโดยซื้อส่วนประกอบบางชนิด มาบรรจุเอง และแพ็คลงในบรรจุภัณฑ์ ภายในบ้านพักย่าน แขวงทับยาว เขตลาดกระบังฯ ให้มีลักษณะเหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย.
นอกจากนี้ ยังมีการลักลอบผลิต ผลิตภัณฑ์สำหรับหยอดกำจัดเห็บหมัดสุนัขและแมว ยี่ห้ออื่นๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยนำผลิตภัณฑ์กำจัดปลวกมาผสมกับแอลกอฮอล์ จากนั้นกรอกใส่ภาชนะ โดยใช้แรงานคน โดยไม่มีการชั่งตวงวัดปริมาณ ส่วนประกอบอย่างมีมาตรฐาน ในสถานที่ผลิตที่ไม่สะอาด และไม่ถูกสุขลักษณะ ส่งขายราคาขวดละ 50-70 บาท ผ่านชอปปี้ ลาชาด้า และตามร้านเพ็ทช็อปทั่วประเทศ มียอดขายประมาณเดือนละ 4,000-5,000 ชิ้น โดยทำมาแล้วประมาณ 3 ปี
©2018 CK News. All rights reserved.