ป.ป.ช. จับมือกรมบัญชีกลาง ลงนาม MOU เพื่อต่อต้านการทุจริต


17 เม.ย. 2567, 17:55

ป.ป.ช. จับมือกรมบัญชีกลาง ลงนาม MOU เพื่อต่อต้านการทุจริต




วันที่17 เมษายน 256 สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาล ณ ห้องนนทบุรี 3 ชั้น 3 อาคาร 4 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยมีพลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเปิดงาน และ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวมอบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ของสำนักงาน ป.ป.ช.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.  กล่าวว่า  พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561  กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.  มีหน้าที่ และอำนาจในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมการป้องกันการทุจริต  อีกทั้งกำหนดมาตรการและกลไกที่จำเป็นในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการจัดให้มีกลไกการแจ้งเตือนกรณีพบว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อว่าอาจมีการทุจริตในหน่วยงาน  รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการป้องกันการทุจริตตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

ดังนั้น  เพื่อให้เกิดการป้องกันการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม  จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาลระหว่าง  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  กับ  กรมบัญชีกลาง  ในฐานะหน่วยงานกำกับนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของประเทศ    โดยมีเจตนารมณ์ในการบูรณาการความร่วมมือเพื่อป้องกันและเชื่อมโยงข้อมูล  เพื่อลดช่องว่างที่จะก่อให้เกิดการทุจริตทุกรูปแบบ  เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐเป็นเรื่องของการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินซึ่งมาจาก   เงินภาษีของประชาชน  จึงจำเป็นต้องปกป้อง  รักษา  ป้องกันมิให้เกิดการสูญเสียจากการทุจริตเพราะจะกระทบกับการจัดนโยบายสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนและการพัฒนาประเทศ

และเพื่อแสดงจุดยืนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในการส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและสร้างกลไกสำคัญในการป้องกันการทุจริต  ด้วยการเฝ้าระวังการทุจริตโดยการวิเคราะห์ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ  จึงมอบนโยบายเพื่อต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาล ดังนี้

1. สำนักงาน ป.ป.ช.  จะดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ  ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ  ให้บรรลุเป้าหมายโดยนำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมบัญชีกลาง  มาใช้ให้เกิดประโยชน์  ทั้งในมิติของการปราบปรามการทุจริตการป้องกันการทุจริต  และการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน

2. สำนักงาน ป.ป.ช.  จะให้ความสำคัญและพิจารณาให้ความเห็นต่อ  “รายงานการสังเกตการณ์”(Notification Report : NR) ที่ถูกรายงานโดยผู้สังเกตการณ์อิสระในโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact : IP) ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการป้องกันการทุจริตสำหรับโครงการที่มีงบประมาณตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
 

ทั้งนี้ หากการดำเนินงานการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐใด  มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดำเนินการที่อาจนำไปสู่การทุจริต หรือส่อว่าอาจมีการทุจริต คณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยสำนักงาน ป.ป.ช.จะได้มีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐดังกล่าว  และคณะรัฐมนตรีทราบ  พร้อมด้วยข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขเพื่อป้องกันการทุจริต  ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.  ตามมาตรา 35  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ในการระงับยับยั้งมิให้เกิดความเสียหายเนื่องจากการทุจริตได้อย่างทันท่วงที

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมธรรมาภิบาลมีวัตถุประสงค์  ดังนี้
1. เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการทุจริตให้บรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาตินโยบายของรัฐและแนวทางการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
2. เพื่อประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายใต้กรอบบันทึกข้อตกลงฉบับนี้
3. เพื่อประสานความร่วมมือในการเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
4. เพื่อร่วมดำเนินการในรูปแบบอื่นใดที่อาจเป็นแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  ในภาครัฐและเอกชน ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. และ กรมบัญชีกลาง เห็นสมควร






คำที่เกี่ยวข้อง : #ปปช.  









©2018 CK News. All rights reserved.