วันนี้ (9 พ.ค.62) นายวีระพงษ์ อัถโถปกรณ์ พร้อมด้วย นายคำรพ จันทร์หอม รวมทั้งบรรดาญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน ชาว ม.3 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง นำผู้สื่อข่าวเข้าไปดูภายในสวนปาล์มน้ำมัน ที่ขณะนี้มีผลสุกเต็มที่คาต้นและกำลังร่วงตกหล่นลงบนพื้น หลังจากผ่านมาแล้วประมาณเกือบ 1 เดือน ที่เจ้าของไม่ยอมให้คนงานเข้ามาตัดไปขายตามปกติ เพราะขณะนี้ราคายังคงตกต่ำสุดๆ เหลือ กก.ละ 1.60-1.80 บาท ซึ่งหากให้คนงานตัดไปขายในช่วงนี้ก็จะทำให้เจ้าของสวนปาล์มขาดทุนอย่างหนัก โดยเมื่อแบ่งกับคนงานแล้ว เจ้าของจะเหลือเงินแค่ กก.ละ 60-80 สตางค์ หรือได้เงินน้อยกว่าคนงานด้วยซ้ำ เนื่องจากบางแห่งมีค่าจ้างตัดสูงถึง กก.ละ 1 บาท

ดังนั้น เกษตรกรหลายคนจำเป็นต้องปล่อยผลปาล์มให้ร่วงทิ้งคาต้น และรอนำไปขายในโครงการ 200,000 ตัน ตามที่รัฐบาลประกาศจะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รับซื้อปาล์มเพิ่ม เพื่อนำไปใช้ในโรงไฟฟ้า ซึ่งหวังว่าจะทำให้ราคาขายดีขึ้นกว่านี้ แต่ที่ผ่านมาสำหรับโครงการ 100,000 ตันแรก ที่การไฟฟ้าฯ รับซื้อ ปรากฏว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้นำปาล์มไปขาย เพราะทางโรงงานรับซื้ออ้างว่า เงินหมดและน้ำมันเต็ม
 
ด้วยเหตุนี้เกษตรกรหลายคนจึงเชื่อว่าโครงการดังกล่าว อาจมีความไม่โปร่งใส และหวั่นว่าโครงการ 200,000 ตัน ที่กำลังจะดำเนินการนี้ เงินก็จะไม่ถึงมือชาวบ้านเหมือนเดิม ขณะที่โรงงานที่ร่วมโครงการก็อาจนำปาล์มที่ซื้อตุนเอาไว้ในราคาถูกก่อนหน้านี้ มาสวมรอยขาย และยิ่งเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มอีกเช่นเคย จึงออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งใช้วิธีการประกันราคาปาล์มที่ กก.ละ 3.00-3.50 บาท เพื่อให้เกษตรกรทุกรายสามารถเข้าถึงโครงการ และไม่ถูกเอาเปรียบจากโรงงาน