วันที่ 7 กุมภาพันธุ์ 2567 เครือข่ายแรงงานเก็บเบอร์รี่ป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ได้ร่วมกันเขียนจดหมายในนามของแรงงานไทยหลาย 10,000 คนถูกหลอกให้กู้หนี้ยืมสินจากประเทศไทยเพื่อนำไปชำระค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่เริ่มสมัครสมัครงานจนถึงวันที่เดินทางกลับบ้านรวมถึงการเตรียมตัวเดินทาง ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าการดำรงชีพในความทุกข์ยากในที่พักมาตรฐานต่ำ
โดย ขบวนการหลอกลวงแรงงานเก็บเบอร์รี่นี้ กระทำ โดยการให้ความหวังคนงานจะได้เงินเป็น 100,000 จากการทำงานสองสามเดือนแรงงานไทยที่เงินทุนสำรองหลาย 1000 คนถูกหลอกให้กู้ยืมเงินในประเทศประเทศไทยจำนวนกว่า 100,000 ถึง 200,000 บาทเพื่อนำไปอุดหนุนความมั่งคั่งให้กับธุรกิจในสวีเดนและฟินแลนด์ตั้งแต่ปี พ.ศ 2548 เป็นต้นมา เมื่อรวมการสูญเสียทางเศรษฐกิจของครอบครัวที่ยากจนชาวไทยความเสียหายมีมูลค่าถึง 8000-12,000ล้านบาท
คนเก็บเบอร์รี่ชาวไทยต้องอดทนทำงานหนักไม่ต่ำกว่า 800 ชั่วโมงเพื่อปลดพันธนาการนี่เบอร์รี่ แปลว่าจะต้องทำงาน 10 ถึง 20 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 70 วันโดยไม่หยุดแต่คนงานประมาณ10% เท่านั้นที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้รายได้ตามคำสัญญา โดยตัวแทนนายหน้าไม่เคยกล่าวถึงความจริงเรื่องนี้และไม่บอกกล่าวถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากสภาวะหนี้สินและจากการบาดเจ็บที่เกิดจากการทำงาน
ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์สอบถาม นาย ไพรสันติ จุ้มอังวะ อายุ53ปี 1ในแกนนำผู้ออกมาเรียกร้อง
โดยมีข้อเรียกร้องว่า 1. ประกอบค้ามนุษย์แรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ที่สวีเดนและฟินแลนด์โดยทันที จนกว่าคนงานที่เสียหายจะได้รับการชดเชย และจนกว่าจะมีการเจรจากรอบกฎหมายแรงงานที่คุ้มครองผลประโยชน์ให้คนงานอย่างเต็มที่
2. ฟินแลนด์และสวีเดนจะต้องสร้างความมั่นใจว่ามีมาตรการเร่งรัดสอบสวนดำเนินคดีกับทุกคนและทุกฝ่ายที่ร่วมกันก่อจะกรรมค้ามนุษย์ทั้งในประเทศประเทศไทยสวีเดนและฟินแลนด์เพื่อคืนความยุติธรรมและชดเชยให้คนงานที่เสียหายและเพื่อดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมการค้ามนุษย์
3.เพื่อให้สอดคล้องกับกลไกปกป้องและดูแลผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่มีกรอบกฏหมายอยู่แล้วจะต้องมีการดำเนินการช่วยเหลือทางกฎหมายและทางการเงินแก่แรงงานเก็บเบอร์รี่ชาวไทยที่คดีการค้ามนุษย์ของพวกเขาอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยทางการ
4. เปิดให้มีการเจรจาใหม่โดยกรอบของวิถีรัฐต่อรัฐG2G ทั้งนี้จะต้องยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติโดยที่มีตัวแทนคนงานเก็บเบอร์รี่ป่าเข้าร่วมเจรจาด้วยต้องมีการกำหนดเป็นพิเศษว่าเป็นนายจ้างจะปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานด้วยความสุจริตใจโดยที่นายจ้างจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งต้องจ่ายค่าจ้างที่เหมาะสมค่าทำงานล่วงเวลาค่าดูแลด้านชีวะอนามัยและความปลอดภัยโดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะไม่สามารถหักออกจากรายได้ของคนงานได้
5. จนกว่าการสืบสวนคดีอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมเบรี่ปากของสวีเดนและฟินแลนด์จะดำเนินการสอบสวนจนได้ข้อยุติอุตสาหกรรมเบรี่ปากของสวีเดนและฟินแลนด์ควรถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหภาพยุโรปจนกว่าจะมีการวางกรอบกติกาใหม่ที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของสวีเดนและฟินแลนด์อย่างเคร่งครัด
สุดท้ายนี้อยากฝากสื่อมวลชนช่วยนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ ขอให้ช่วยแรงงานที่ไปทำงานแล้วจะได้เงินกลับต้องเป็นหนี้ มีหลายคนที่ไปค้าแรงงานและถูกหลอกจนต้องเสียบ้านเสียรถและไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไปที่กระทรวงแรงงานจังหวัดแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือแรงงานเหล่านี้ต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.