วันที่ 15 มกราคม 2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานติดตามผลการดำเนินงานการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ไตรมาสที่ 1 และการดำเนินตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม Command Centre สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง

โดยในช่วงต้น นายศิริสุข ยืนหาญ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รายงานผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ไตรมาสที่ 1 โดยผลจากการกำหนดปฏิบัติการ Quick win เพิ่มความเข้มข้นสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ชายแดน การสร้างความร่วมมือทางการข่าวระหว่างหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศ และการกำหนดให้ต้องมีการลงชุมชนเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่องทำให้ผลการปราบปรามยาเสพติดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุมชน จำนวนกว่า 23,000 คดี เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 การจับกุมจำนวนยาบ้ากว่า 203 ล้านเม็ด เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 120 ขณะที่ปฏิบัติการ Quick win นำผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเข้าบำบัด กำหนดเป้าหมายเร่งด่วน 4,414 คน ดำเนินการแล้ว 2,332 คน คิดเป็นร้อยละ 52 ของเป้าหมาย และนำจิตเวชรายใหม่ที่สำรวจพบเพิ่มเติมเข้าบำบัด จำนวน 405 คน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวขอบคุณการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคี รวมถึงได้ชมเชยการปฏิบัติการตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลจนทำให้มีผลงานที่เป็นรูปธรรม และได้ขอให้ สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งขับเคลื่อนการนำผู้เสพยาเสพติดจนมีอาการทางจิตเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่องต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่สร้างผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของชุมชน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา ถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อคืนความปลอดภัยให้ชุมชน และเพื่ออนาคตของลูกหลาน สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานบูรณาการ ต้องขับเคลื่อนให้ยุทธศาสตร์ชาติในการแก้ไขปัญหายาเสพติดไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่อาจมีบริบทหรือสถานการณ์ปัญหายาเสพติดที่แตกต่างกัน จึงต้องพูดคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติในแต่ละจังหวัด รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้ทุกภาคส่วนและประชาชนถึงการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังได้ย้ำถึงการดึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม เพราะมีความเข้าใจปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตนเองดีที่สุด และต้องคิดถึงนวัตกรรมใหม่ๆในการแก้ปัญหา เช่นการใช้ แอพพลิเคชั่นในการติดตามผู้ติดยาเสพติดหรือผู้ป่วยจิตเวช เป็นต้น

“การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล ผู้ปฏิบัติงานยาเสพติดต้องมีความรับผิดชอบสูง ไม่ปล่อยปะละเลย งานจึงจะเดินไปข้างหน้าได้ และตัวชี้วัดการทำงานที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย และความพึงพอใจของประชาชน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว