วันที่ 11 มกราคม 2567  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่  เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้า แผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่

โดยในวันนี้มีผู้แทนจากสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมประชุมเพื่อนำเสนอ จุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละแห่ง รวมถึงปัญหาและสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน ซึ่งประกอบด้วย เชียงใหม่ไนซ์ซาฟารี  , อุทยานหลวงราชพฤกษ์ , ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ , น้ำตกห้วยแก้ว , สวนสัตว์เชียงใหม่ , เวียงกุมกาม , วัดพระธาตุดอยคำ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เปิดเผยในที่ประชุมว่า สำหรับวันนี้ได้มาตรวจราชการในจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้มาเน้นย้ำในเรื่องของการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม ศาสนสถาน รวมทั้งธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่อย่างร้านกาแฟ หรือ สถาบันบันเทิงที่กระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัด


รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะต่อยอด  สนับสนุนนักท่องเที่ยวในการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรการจัดการตลาดลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นการจัดพื้นที่อำนวยสะดวกในด้านต่าง ๆ

การนำเสนอการท่องเที่ยวอาจจะใช้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ในการบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากในกลุ่มนี้มีความคิดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกช่วงอายุ 

อีกหนึ่งแนวคิดที่จะบอกเล่าเรื่องราวก็คือการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นวัดต่างๆในตัวเมืองเชียงใหม่หรือพื้นที่รอบนอก  ความเชื่อ ความศรัทธาต่างๆของชาวล้านนา ซึ่งการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆเหล่าจะสามารถดึงดูดผู้ศรัทธาให้เข้ามาในพื้นที่  ก็จะทำให้คนในท้องถิ่นได้ขายสินค้า มีรายได้ทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น


นายเศรษฐากล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องของกาแฟเป็นเรื่องที่น่าสนใจ  เนื่องจากสามารถดึงดูนักท่องเที่ยวได้ รวมถึงการปลูกกาแฟในพื้นที่เชิงเขาก็สามารถลดการเผาป่าปลูกได้เมื่อลดการเผาป่าลงแล้วปัญหาของไฟป่าหมอกควันและฝุ่นPM 2.5 ก็ลดลงด้วย

อีกหนึ่งที่อยากจะฝากก็คือเรื่องของมวยไทยที่สามารถผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ก็เป็นพื้นที่ที่สามารถทำให้ชาวต่างชาติมาฝึกซ้อมมวยไทยได้ โดยชาวต่างชาติก็จะใช้เวลาระยะหนึ่งในการอยู่ที่เชียงใหม่หรือประเทศไทยในการเรียนรู้เกี่ยวกับมวยไทยซึ่งในส่วนนี้ในตอนนี้ควรที่จะต้องลงรายละเอียดและศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้นกว่านี้



อย่างไรก็ตามเชื่อได้ว่าจากการที่ทุกฝ่ายทำงานหนักในปีนี้ในปีหน้านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้รายได้มากขึ้นก็ตามไปด้วย เชื่อได้ว่าทีมไทยแลนด์สามารถทำได้อยากจะให้มองไปไกลมากกว่าจังหวัดเชียงใหม่อยากจะให้มองไปที่จังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนืออยากจะให้ขยายผลไปยังจังหวัดรอบข้างด้วย  เพื่อทำให้เศรษฐกิจของชาวเชียงใหม่และภาคเหนือแข็งแรงขึ้น และมีความหวังว่าอยากให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่นานขึ้นและมีการใช้จ่ายต่อหัวที่มากขึ้น