วันที่ 8 ธ.ค.2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายเศกสารฯ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับดังนี้
1. หมาบจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 46/2566 ลง 13 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
2. หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ 473/2565 ลง 22 ธันวาคม 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
3. หมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ 312/2566 ลง 1 พฤศจิกายน 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ รับของโจร ”
สถานที่จับกุม บริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากชาวบ้าน ให้ช่วยติดตามจับกุมมนายเศกสารฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ โดยชาวบ้านหวั่นว่าผู้ต้องหาจะกระทำความผิดซ้ำอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาโดยทราบว่าปัจจุบัน นายเศกสารฯ ได้มาทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ใน ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ยังพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับในระบบ อีกจำนวน 2 หมาย ซึ่งมีการกระทำผิดเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม โดยสามารถจับกุม นายเศกสาร ฯ ได้ที่บริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จากนั้นจึงนำตัว ผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเมื่อประมาณปลายปี 2565 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ตระเวนไปลักทรัพย์บันได สว่าน และทรัพย์สินต่างๆ ของชาวบ้านในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี โดยในระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นศาล ตนไม่ได้เดินทางไปตามกำหนดนัดของศาล จากนั้นจึงได้หลบหนีออกนอกพื้นที่
©2018 CK News. All rights reserved.