วันที่ 1 พ.ย.2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบนครบาล “ปลอมตัวเป็นผี” แฝงตัวเป็นพนักงานโรงหนังแกงคนร้ายมีหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มูลค่าความเสียหายกว่าแสนบาท ก่อนรวบคาโรงหนังขณะเข้าชมเรื่อง “ธี่หยด”คนร้ายงงตั้งตัวไม่ทันว่าถูกเจ้าหน้าที่แต่งกายเป็นผีเจ้าทำการจับกุม
ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวันชัย แสงอุดม หรือ “แมน” อายุ 32 ปี
โดยกล่าวว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นด้วยประการใดๆ”
พบประวัติต้องโทษกว่า 4 คดี
1. วันที่ 7 พ.ค. 57 ถูกจับกุมข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ฯ พื้นที่ สน.ยานนาวา
2. วันที่ 11 เม.ย. 65 ถูกจับกุมข้อหา ขับรถในขณะเมาสุรา พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร
3. วันที่ 8 ธ.ค. 65 ถูกจับกุมข้อหา เล่นการพนัน (ทายผลฟุตบอล) พื้นที่ สน.วัดพระยาไกร
4. วันที่ 20 ต.ค. 66 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ (คดีนี้)
พฤติการณ์กล่าวคือ Undercover สุดแหวกแนวของชุดสืบสวนนครบาล เมื่อชุดจับกุม “ปลอมตัวเป็นผี” ในเทศกาลวันฮาโลวีนไปจับกุมตัวคนร้ายโดยสืบเนื่องมาจาก ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นอดีตนักโทษคดีจำหน่ายยาเสพติดและพ้นโทษออกมาเมื่อไม่นานมานี้ จากนั้นเจ้าตัวได้เข้าทำงานเป็นพนักงานในร้านอาหารชื่อดังย่านสีลม ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ออกจากงานไปโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่แล้วดึกสงัดของคืนวันที่ 20 ต.ค. 66 คนร้ายได้กลับมาที่ร้านอาหารอีกครั้งในฐานะ “หัวขโมย” ใช้ชะแลงงัดเข้าไปในร้าน ก่อนจะกวาดทรัพย์สิน แท็บเล็ต จำนวน 5 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 1 เครื่อง รวมความเสียหายกว่าแสน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่าคนร้ายเป็นอดีตพนักงานภายในร้าน ชื่อว่า นายวันชัย แสงอุดม หรือ “แมน” อายุ 32 ปี แต่เจ้าตัวได้หนีหายเข้ากลีบเมฆไปชนิดที่ว่าไร้ร่องรอยให้ติดตามตัว จึงมีการออกหมายจับคนร้ายดังกล่าวในเวลาต่อมา
ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามและได้เบาะแสสำคัญว่า คนร้ายจะควงหวานใจคนใหม่ไปชมภาพยนตร์ผี “ธี่หยด” ในคืนวันฮาโลวีน พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ไม่รอช้าส่งชุดสืบสวนแฝงตัว Undercover แต่งตัวเป็นผีแฝงตัวเป็นพนักงานโรงหนังอยู่ละแวกหน้าโรงภาพยนต์ ภายในห้างดังย่านพระราม 3 เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงที่ชุดสืบสวนแฝงตัวในคราบผี คนร้ายได้ซื้อตั๋วภาพยนตร์กระแสมาแรงในขณะนี้ “ธี่หยด” และกำลังจะเดินเข้าชมภายในโรงภาพยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแกงคนร้าย เป็นซุ้มผีขอถ่ายรูป ก่อนแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมตัวคนร้ายตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าโรงภาพยนต์ ภายในห้างดังย่านพระราม 3
ในชั้นจับกุม นายวันชัยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เป็นคนชอบทำอาหารมาก เคยทำงานเป็นเซฟร้านอาหารมาเกือบ 10 ปี จนเมื่อเดือนสิงหาคม ได้สมัครเข้าทำงานเป็นเซฟทำอาหารที่ร้านดังย่านสาทร เป็นเซฟที่นั่นได้ประมาณ 1 เดือน ก็เกิดมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน จึงตัดสินใจออก จึงเกิดความโกรธแค้น เข้าไปขโมยของในร้านอาหารนั้น โดยได้ไอแพด 5 เครื่อง, คอมพิวเตอร์เซอร์เฟส 1 เครื่อง แล้วเอาไปขายเป็นค่าจ้าง แต่ก็โดนโกง จากนั้นได้หลบหนีจนถูกจับกุม” หลังจับกุมตัว ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “ การปฏิบัติงานสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยอาศัยช่วงเทศกาลฮาโลวีน เพื่อแยกคนร้ายออกจากสังคมในกรุงเทพฯ เพราะมีมิจฉาชีพมากมายหลากหลายประเภท ขอให้พี่น้องประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ เพิ่มมาตรการในการวิเคราะห์พฤติกรรมและตรวจสอบประวัติบุคคล ก่อนที่จะรับเข้าทำงาน หรือหากท่านสงสัยว่าบุคคลที่มาสมัครงานนั้น อาจเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาทำงาน หรือหากพบว่ามีเบาะแสการกระทำความผิด ท่านสามารถแจ้งมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. ” แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ”
©2018 CK News. All rights reserved.