"เศรษฐา" นั่งหัวโต๊ะ บัญชางานยาเสพติด วางเป้าลดความรุนแรงปัญหายาเสพติดเพื่อประชาชน ถกแผนเร่งด่วน 1 ปี ลดผู้ป่วยจิตเวช


31 ต.ค. 2566, 17:22

"เศรษฐา" นั่งหัวโต๊ะ บัญชางานยาเสพติด  วางเป้าลดความรุนแรงปัญหายาเสพติดเพื่อประชาชน ถกแผนเร่งด่วน 1 ปี ลดผู้ป่วยจิตเวช




วันที่ 31 ต.ค.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (บอร์ด ป.ป.ส.) ครั้งที่ 3/2566 ณ ห้องประชุมตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

การประชุมในครั้งนี้ นับเป็นการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. เป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ และมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วยตนเอง ต่างจากในอดีตที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการมอบหมายเป็นประธาน โดยมีวาระประชุมที่รัฐบาลให้ความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การลดผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติด ปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด ในระยะเวลา 1 ปี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า คณะกรรมการ ป.ป.ส. ถือเป็นกลไกสำคัญทางนโยบายด้านยาเสพติดของประเทศ ตนจึงต้องการเห็นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการปราบปราม การป้องกัน การบำบัดรักษา ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด โดยตนจะนั่งหัวโต๊ะในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ผู้บัญชาการงานด้านยาเสพติดด้วยตนเอง เพื่อลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าว มอบแนวทางให้การทำงานบรรลุผลสำเร็จ อาทิ การยึดเป้าหมายร่วมกัน ไม่แยกกันทำ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้, การแก้ไขปัญหาความรุนแรงด้านจิตเวช-ยาเสพติด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน, การสร้างความเข้าใจ เนื่องจากแนวทางการทำงานที่ใหม่ จึงต้องทำความเข้าใจทั้งส่วนกลางและพื้นที่ เพื่อความสำเร็จในการปฏิบัติ, การขยายการมีส่วนร่วมของชุมชน, การใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดให้มากขึ้น รวมถึงให้มีการติดตาม และสรุปองค์ความรู้ใหม่ให้เป็น best practice เพื่อสร้างนวัตกรรมจากปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดนี้

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง การยกระดับการใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อลดความรุนแรงของปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีการบังคับใช้แล้ว แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ปรับแนวคิดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ยึดผู้เสพเป็นเป็นผู้ป่วยต้องช่วยเหลือ สร้างอาชีพ ผู้ค้าต้องถูกลงโทษและยึดทรัพย์ ซึ่งหน่วยงานและผู้บังคับใช้กฎหมายต้องเร่งปรับตัว ทำความเข้าใจ เพื่อให้การใช้กฎหมายสอดคล้องกัน และนำไปสู่ประโยชน์ได้เต็มที่

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เสนอที่ประชุมให้กำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนโดยใช้มาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ในการกำหนดพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน เพื่อดำเนินการควบคุมเป็นพิเศษ เช่น ในพื้นที่ที่มีกลุ่มผู้ลักลอบมักใช้ลำเลียงยาเสพติดผ่านอย่างในจังหวัดพื้นที่ชายแดนภาคเหนือและพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการดังกล่าว

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายที่สำคัญยิ่งของรัฐบาล ซึ่งผมได้ประกาศเป็นนโยบายที่จะลดปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายใหญ่ และท้าทายอย่างมาก หากทำได้สำเร็จผลมากเท่าใดจะลดความเดือดร้อนของประชาชนได้เท่านั้น 





คำที่เกี่ยวข้อง : #นายกเอ๋  









©2018 CK News. All rights reserved.