วันที่ 13 ต.ค.2566 ตำรวจทางหลวงอยุธยา สกัดจับขบวนการขนแรงงานต่างด้าว 17ราย บริเวณ กม.73-74 ถนนพหลโยธิน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมยึดของกลาง รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน, โทรศัพท์ จำนวน 5 เครื่อง และกุญแจรถยนต์ จำนวน 2 ดอก
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางบริเวณ
อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พบรถยนต์กระบะขับขี่ผ่านมาโดยสังเกตว่ามีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขับหลบหนีด้วยความเร็ว โดยขับไปตามเส้นทางถนนพหลโยธินด้วยความประมาทและน่าหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัย โดยหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 3-4 กิโลเมตร รถกระบะคันดังกล่าวได้จอดบริเวณข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เบื้องต้นสอบถามชื่อ คือ นายอภิวิชญ์ฯ อายุ 19 ปี เป็นผู้ขับขี่รถกระบะคันดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหาที่ 6 - 17 นั่งโดยสารมาด้วย
นายอภิวิชญ์ฯ ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีรถยนต์กระบะอีกหนึ่งคันเป็นผู้ขับขี่นำเส้นทางรถยนต์ของตนจากจังหวัดตาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานรถยนต์สายตรวจช่วยสกัดจับรถกระบะนำเส้นทางคันดังกล่าวได้ที่บริเวณ กม.73-74 ถ.พหลโยธิน ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและทำการตรวจสอบ พบนายกอฯ อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว พร้อมด้วยนายหว้าฯ อายุ 42 ปี, นายธงธนาวัฒน์ อายุ 20 ปี และน.ส.เรวดี อายุ 22 ปี เป็นผู้โดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากนั้นได้เชิญรถยนต์ทั้ง 2 คันพร้อมผู้ขับขี่ไปตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้ต้องหาที่ 6 - 17 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาและไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวังน้อย ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดี
ตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่า ได้รับการประสานจากชายไทยให้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่บริเวณป่าข้างทางพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 12 คน เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท/ครั้ง และจะมีรถยนต์กระบะอีกคันตรวจสอบเส้นทาง ซึ่งทราบดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 12 คน
ไม่มีหนังสือเดินทางและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง โดยได้กระทำแบบนี้เป็นครั้งแรก
จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 2 – 5 ให้การยอมรับว่า ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ โดยกระทำแบบนี้เป็นครั้งแรกและยังไม่ทราบว่าจะได้ค่าจ้างในการนำทางเท่าไร
จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 6 – 17 ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 10,000 บาท
©2018 CK News. All rights reserved.