ที่จังหวัดอุทัยธานี วันก่อน ที่ศูนย์ปฏิบัติการชุมชนยั่งยืนวัดบุญลือ หมู่ที่ 1 ตำบลเนินแจง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี มี พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ข้าราชการบำนาญ หัวหน้าทีมวิทยากร ตร.เป็นประธานี และมีคณะกรรมการประกอบด้วย พล.ต.ท. นพดล ศรสำราญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษตำรวจ พล.ต.ต.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ ข้าราชการบำนาญ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ หัดกล้า ข้าราชการบำนาญ ได้เดินทางมาตรวจประเมินผลการดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ทั้งนี้ยังเป็นการการสนองพระราชปนิทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ 10 ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติดและต้องการที่จะขจัดให้หมดไป โดยมีพล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในฐานะผู้สังเกตการณ์ และ พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ข้าราชการตำรวจ และภาคีเครือข่าย ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจประเมินในครั้งนี้ สภ.เมืองอุทัยธานี เป็นอันดับที่ 1 ของตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งรอประกาศผลจากการประเมินในครั้งนี้จะอยู่ในอันดับอะไรของประเทศ และการประเมินผลนอกจากการตรวจเอกสาร สัมภาษณ์ ผู้นำชุมชน ผู้บำบัด แล้ว คณะตรวจยังได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจตามบ้านเรือนของประชาชน เพื่อสอบถามถึงโครงการว่าทำกันอย่างจริงจัง หรือไม่ เพื่อเป็นข้อพิจารณาในการให้คะแนน อีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีบูทการจัดแสดงสินค้างานฝีมือต่างๆของคนในชุมชนที่ผู้บำบัดจะเข้ามาฝึกฝนและเป็นการส่งเสริมอาชีพเพื่อหารายได้ เช่นการเรียนรู้การจักรสาน การฝึกอาชีพเป็นลูกจ้างเลี้ยงควายงามเงินล้าน ซึ่งการนำควายงามมาโชว์ในครั้งนี้จำนวน 3 ตัว รวมมูลค่ากว่า 10 ล้าน บาท ถัดมาลำดับสุดท้ายที่ผู้บำบัดเข้ามาฝึกฝนการทำมีด ช่างทิน ซึ้งล้างมือจากการทำปืนเถื่อนหันมาทำหัวเข็มขัด ทำมีดด้วยมือ ( handmade ) ซึ่งถือว่ามีดทุกเล่มจะเป็นมีดเล่มเดียวในโลก และเป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอุทัยธานี ที่ครั้งนี้ได้จัดบูทได้อย่างสวยงาม มีทั้งหัวเข็มขัดงาช้าง กระดูกช้าง และเขาสัตว์ต่างๆเป็นต้น ซึ่งมีราคาตั้งแต้หลักพัน หลักหมื่น ไปจนถึงมีราคาเป็นแสน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีมีดที่ทำด้วยมือ ( handmade ) ซึ่งทำด้วยเหล็กกล้านำเข้าจากประเทศสวีเดน ซึ่งแต่ละเล่มที่นำมาโชว์เป็นจำนวนมากถือว่า เป็นมีดเล่มเดียวในโลก หรือเป็นหนึ่งเดียวในโลกซึ่งการทำแต่ละเล่มจะไม่ซ้ำแบบกัน
และงานนี้พี่ๆตำรวจเจอมีดเล่มที่สวยถูกใจ แต่พอจับถึงกับรีบวางทันที เพราะมีดเล่มนี้ราคา 80,000 บาท งานนี้ทำเอาพี่ตำรวจบอกว่าราคาพอๆกับซื้อปืนกันเลยทีเดียว ส่วนคณะผู้ตรวจงานนี้ ก็สนใจมีดสวยงามเหมือนกัน อย่างมีดเล่มนี้โดนใจมากๆ แต่ราคานั้นอยู่ที่ 45,000 บาท เลยขอพี่ช่างทำมีดลดราคาให้หน่อย ต่อกันไปต่อกันมาอยู่พักใหญ่จนพี่ช่างทำมีดลดให้สุดตัวแล้วเหลือที่ 35,000 บาท ทางพี่ตำรวจนายนี้ก็เลยส่งสารขออนุมัติงบประมาณถึงทางบ้านก่อนแต่ไม่รู้จะอนุมัติหรือไม่ เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รอง ผบช.ภ.6 ที่เดินทางมาในฐานะผู้สังเกตการณ์ ก็ให้ความสนใจมีดสวยงามกับเค้าด้วยเหมือนกัน ดิ่งตรงไปคว้ามีดที่ตัวเองสนใจคือมีดซามูไร ซึ่งเล่มนี้มีราคาแพงสุดในร้านคือ 80,000 บาท ถึงกับอ้าปากค้างไม่สู้ราคา แต่ก็ขอต่อรองบอกว่าขอต่อคำเดียว จาก 80,000 บาท เหลือ 8,000 บาทได้มั้ยจะซื้อเลยทันที เล่นเอาเจ้าของแทบสะอื้นต่อแบบนี้ไม่ขายแน่ๆ
©2018 CK News. All rights reserved.