ที่จังหวัดอุทัยธานี  วันที่ 25 ส.ค.66 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน วัดบุญลือ หมู่ที่ 1 ตำบลเนินแจง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี พลตำรวจโทบุญจันทร์ นวลสาย วิทยากรต้นแบบ พร้อมด้วย พล.ต.ท.นพดล ศรสำราญ ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.รรท.รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ ข้าราชการบำนาญ วิทยากรต้นแบบ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ หัดกล้า ข้าราชการบำนาญ วิทยากรต้นแบบ และ พล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รอง ผบช.ภ.6 พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจประเมินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ของตำรวจภูธรภาค 6 โดยมี พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราขการจังหวัดอุทัยธานี พ.ต.อ.สาทิตย์ ศรีหมื่นไวย ผกก.สภ.เมืองอุทัยธานี ข้าราชการตำรวจ และภาคีเครือข่าย ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเสร็จของ สภ.เมืองอุทัยธานี ในแก้ปัญหายาเสพติดหมู่บ้านบุญลือ จนทำให้ผู้เสพที่มีอยู่ภายในหมู่บ้านนั้นกลับตัวกลับใจ สร้างชีวิตใหม่ จนกลายเป็นหมู่บ้านสีขาวได้ในระยะเวลา 3 เดือน กับการเข้าถึงคลุกคลี ผู้เสพผู้ค้า พร้อมสร้างอาชีพสร้างชีวิตให้ครอบครัวยิ้มได้อีกครั้ง จนทำให้สภ.เมืองอุทัยธานีนั้น ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการจัดทำโครงการดังกล่าวในระดับภาคแล้ว อีกด้วย

โดยโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ของตำรวจภูธรภาค 6 นั้น เป็นโครงการที่เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบเชิงลุกและยั่งยืน โดยเน้นการปักหลักและเข้าถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนแบบยกต้นตอ คือการสอดส่อง ติดตาม ตรวจพบ สร้างความไว้ใจ จนนำไปสู่การยอมรับและให้ความร่วมมือของคนในชุมชนอย่างจริงจัง ก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนที่ยั่งยืน สร้างคุณภาพชีวิตของครอบครัว สู่ชุมชนที่มีคุณภาพ จนทำให้หมู่บ้านบุญลือนั้นกลายเป็นหมู่บ้านสีขาว ที่ปลอดอาชญากรรม และสารเสพติดแบบ 100% มีการตั้งกฏประจำหมู่บ้าน แฝรวมทั้งจัดมีการติดตั้งตู้แจ้งเหตุเตือนภัยประจำหมู่บ้าน ที่สามารถแจ้งเหตุต่างๆไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้โดยตรงทันที อีกด้วย

จากที่ก่อนหน้านี้พบว่า ในหมู่บ้านบุญลือนั้น มีผู้ค้าและผู้ติดยาเสพติด ด้วยกัน จำนวน 28 ราย รวมไปถึงมีการลักเล็กขโมยน้อยในหมู่บ้านอยู่เป็นประจำ โดยหลังจากที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในตำบล ไม่ว่าจะเป็น หมออนามัย อบต.เนินแจง กำนัน ผู้ใหญ่ บ้าน และวัดบุญลือ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงศักยภาพ ในการมุ่งเน้นแก้ปัญหายาเสพติดที่ต้นตอแบบเข้าถึงและเข้าใจ ทำให้ตลอดระยะเวลา 3 เดือนเต็มของการจัดโครงการดังกล่าว จนทำให้บรรดาผู้ติดสารเสพติดทุกราย ต่างเปิดใจยอมรับ และหลุดพ้นจากวงจรยาเสพติด สร้างชีวิตใหม่ที่ดีให้กับตนเองและครอบครัว

ซึ่งในโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรนั้น นอกจากจะช่วยบำบัดให้ออกจากวงจรยาเสพติด แล้วนั้น ยังช่วยส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มผู้เสพติด ได้มีอาชีพมีรายได้ที่มั่นคงพร้อมไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริม อาชีพมีดทำมือสวยงาม การทำเครื่องจักรสานจากไม้ไผ่ รวมไปถึงการเลี้ยงกระบือสวยงาม การทำอาหาร และการซ่อมแซม อุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จนทำให้ทุกครอบครัวของผู้ที่เคยติดยาเสพติดกลับมาประกอบอาชีพตามความถนัด ก่อเกิดรายได้และความสุขให้ครอบครัวให้กลับมายิ้มได้อีกครั้ง