ทลายแก๊งเจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน ยัดไอซ์ในเพลารถส่งข้ามชาติ


19 ส.ค. 2566, 12:12

ทลายแก๊งเจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน ยัดไอซ์ในเพลารถส่งข้ามชาติ




19 ส.ค. 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ชุด ศอ.ปส.ตร.ชุดที่ 5, สืบนครบาล และเหล่านักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 จับกุม 1. นายเฉิน ยู่ หนิง อายุ 34 ปี สัญชาติไต้หวัน ฉายา ขาลาย บุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวัน ในคดี “ยาเสพติด” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว เคยถูกตำรวจไต้หวันจับกุมเมื่อ 7 เดือนก่อน แต่ได้ประกันตัวชั้นศาล และหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย 2. นายหลี่ หมิง เจิ้น อายุ 26 ปี สัญชาติไต้หวัน ฉายาเบาหวิว 3. นายเซิง เยี่ยน หมิง อายุ 31 ปี สัญชาติไต้หวัน บุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว

4. นายหลิน เฉอ เฉิง อายุ 24 ปี สัญชาติไต้หวัน บุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว 5. นายเฉิน ยี่ เหวิน อายุ 23 ปี สัญชาติไต้หวัน บุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ยาเสพติด ฟอกเงิน ฉ้อโกง และอบายมุข” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว 6. นายชู ชุน เยน อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน บุคคลตามหมายจับของประเทศไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว และ น.ส.อภิญญา อุดม อายุ 24 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี

โดยจับกุมนายเฉิน ยู่ หนิง และนายหลี่ หมิง เจิ้น ในข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน จับกุมในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แฮปปี้วอเตอร์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ไฟว์ไฟว์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. แท่งเหล็กเพลากลางรถบรรทุก จำนวน 17 แท่ง ใช้สำหรับบรรจุซุกซ่อนยาเสพติด 2. ยาไอซ์ 1,057 กรัม 3. กัญชา 10 กิโลกรัม 4. อุปกรณ์ตัดแปลงท่อนเพลา 15 รายการ 5. ยาไฟว์ไฟว์ 29 เม็ด 6. เครื่องปั่นใช้ผสมยาเสพติด 2 เครื่อง 7. เคตามีน 17 กรัม 8. แฮปปี้วอเตอร์ 1 ซอง โดยจับกุมนายเฉิน ยู่ หนิง และนายหลี่ หมิง เจิ้น ได้ที่ บ้านเลขที่ 89/19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพ ส่วนที่เหลือจับกุมตัวได้ที่ บ้านเลขที่ 111/30 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามี “กลุ่มชายชาวไต้หวันสักลาย” ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งทีมตามสะกดรอย จนทราบว่าเป็นขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติ “4 ราชายาเสพติดไต้หวัน” ชื่อ “แก๊งไข่หวง” ที่ถูกทางการไต้หวันออกหมายจับตามล่า จึงหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย นอกจากนั้นยัง พบแท่งเพลาสิบกว่าแท่ง ที่คาดว่าขบวนการดังกล่าวใช้ซุกซ่อนยาเสพติด 

จากนั้น พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงส่งชุดสืบสวนติดตาม กระทั่งไปพบเซฟเฮ้าส์ แหล่งกบดานและซุกซ่อนของแก๊งดังกล่าว อยู่ในหมู่บ้านหรูใจกลางกรุง ซึ่งใช้เป็นฐานทัพบัญชาการรับ-ส่งออกยาเสพติด ก่อนวางกำลังซุ่มโป่งแอบดูจนพบแท่งเพลา 17 แท่งห่อแร็บเตรียมส่งออกนอก กระทั่งช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 18 ส.ค. ชุดซุ่มโป่งพบว่าจะมีการเคลื่อนย้ายแท่งเพลาไปขึ้นเรือขนส่งทางทะเล พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญามีนบุรี บุกเข้าจับกุม นายเฉิน ยู่ หนิง และนายหลี่ หมิง เจิ้น พร้อมทั้งหั่นท่อนเพลา ก่อนพบของกลางยาไอซ์และกัญชาร่วงออกมาจำนวนมาก



สอบสวน นายเฉิน ยู่ หนิง หัวหน้าขบวนการ ก่อนขยายผลบุกไปที่ตรวจค้น บ้านพักอีกหลังใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นรังของแก๊งไข่หวง ที่ใช้เป็นฐานผลิตยาแฮปปี้วอเตอร์ และใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้ยาเสพติด พบของกลางยาไอซ์, ยาเคตามีน, ยาไฟว์ไฟว์ และ แฮปปี้วอเตอร์ จำนวนหลายรายการ รวมไปถึงของจำพวก ซองเปล่า, เครื่องปั่น เพื่อใช้ใส่ยาแฮปปี้วอเตอร์ในจำนวนมาก และจับกุมผู้ต้องหาในบ้านได้อีก 5 ราย ขณะพยายามวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ขึ้นชั้นบน เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นนายเฉิน ยู่ หนิง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เมื่อ 7 เดือนก่อน ตนได้ถูกตำรวจไต้หวันจับกุม ที่ประเทศไต้หวัน และออกข่าวดัง เพราะเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ แต่ได้จ้างทนายสู้คดี และประกันตัวออกมา ก่อนจะหนีออกนอกประเทศ ด้วยการแอบขึ้นเรือสินค้าเป็นเวลากว่า 15 วัน จนถึงประเทศกัมพูชา จากนั้นจึงค่อยเดินทางเข้ามาตั้งฐานทัพใหม่ในประเทศไทย  จนทางการไต้หวันได้ออกหมายจับ และตามล่า

เมื่อมาตั้งฐานทัพที่ประเทศไทย ก็พยายามค้นหาวิธีการที่จะส่งออกยาเสพติดไปยังประเทศไต้หวัน โดยมีผู้ร่วมขบวนการชื่อว่า เสี่ยวผ้าง ซึ่งอยู่ในประเทศไต้หวัน และคอยรอรับยาเสพติด จากตนที่ส่งไปจากประเทศไทย ตนได้เห็นจากข่าวเรื่องการลักลอบขนส่งยาบ้า และเฮโรอีน โดยทำการผ่ายัดลงไปในเพลารถ และเชื่อมเพื่อปกปิด ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยง่าย จึงลองนำมาใช้ โดยตนนั้นได้ขับรถไปซื้อเพลารถที่จังหวัดชลบุรี ส่วนยาเสพติดที่หามานั้น ซื้อมาจากเพื่อนชาวไต้หวัน ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ กิโลกรัมละ 230,000 บาท และซื้อกัญชา มาจากร้านค้าทั่วไปในกรุงเทพฯ จำชื่อร้านไม่ได้ จำนวน 40 กิโลกรัม ในราคา 70,000 บาท โดยจะชำระเงินกันผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม Cryptocurrency สกุลเงิน usdt หลายแอพพลิเคชั่น

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า คนร้ายกลุ่มนี้ เป็นสมาชิกแก๊งขนส่งยาเสพติดข้ามแดนรายใหญ่ ที่ทางการประเทศไต้หวันต้องการตัว จากการขยายผลหัวหน้าแก๊งถูกตามล่า จึงหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อกบดาน และใช้ประเทศไทยเป็นฐานสร้างเครือข่ายในการขนส่งยาเสพติด กลับไปยังประเทศไต้หวัน ล่าสุดแก๊งนี้กำลังทดลอง เพื่อส่งออกยาไอซ์ แต่ทำไม่สำเร็จ ถูกจับกุมเสียก่อน หลังปฏิบัติการนี้ ทางการเจ้าหน้าที่ไต้หวันได้ประสานงานมาที่ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ทันที เพราะผู้ต้องหาในขบวนการนี้ เป็นที่ต้องการตัวของทางการไต้หวันเป็นอย่างมาก

ซึ่งเราจะขยายผลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันให้ถึงที่สุด เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาความมั่นคงระดับชาติ ที่หยั่งรากฝังลึกในสังคมไทย และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระเร่งด่วนลำดับแรก และสั่งการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทุกมิติ จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชน ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ Facebook เพจ “สืบนครบาล IDMB” ตลอด 24 ชั่วโมง






คำที่เกี่ยวข้อง : #แก๊งค้ายา  









©2018 CK News. All rights reserved.