วันที่ 11 ส.ค. 2566 ตำรวจทางหลวงอยุธยา สกัดจับรถกระบะขนแรงงานต่างด้าว 15 ราย บริเวณ กม.1 หมู่ที่ 10 ทล.3422 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม 

พฤติการณ์เจ้าหน้าที่สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวและผู้ลักลอบนำพาในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ,จ.ปทุมธานี และจ.นนทบุรี อยู่บ่อยครั้ง จึงสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน กระทั่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำรวจเส้นทาง ทล.340 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU สีเทา มีน้ำหนักรถที่มากว่ารถยนต์ปกติ จึงส่งสัญญาณให้หยุด แต่รถคันดังกล่าวกลับขับหลบหนี พร้อมเพิ่มความเร็ว ไปตามซอยหมู่บ้านชนบท ซึ่งเป็นซอยแคบ โดยรถคนดังกล่าวพยายามแซงซ้าย - ขวา เร่งความเร็ว และมีการเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น กระทั่งมาถึง บริเวณ กม.1 หมู่ที่ 10 ทล.3422 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับและหยุดรถคันดังกล่าวได้ รวมระยะทางหลบหนีประมาณ 20 กิโลเมตร 

ตรวจสอบพบ นายสุริยาฯ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ขณะที่ภายในพบต่างด้าวอีกจำนวนมากโดยสารอยู่ด้วย เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า ผู้ถูกจับที่ 2-7 และ10-16 แสดงหนังสือเดินทางประเทศเมียนมา แต่ไม่พบข้อมูลการอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ขณะที่ผู้ถูกจับที่ 8 และ 9 พบเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบระบบข้อมูลทะเบียนรถยนต์และทะเบียนรถขนส่ง (ฐานข้อมูลกรมการขนส่งทางบก) ของระบบCrimes สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าข้อมูลของรถยนต์ดังกล่าวไม่ตรงกับที่มีฐานระบบ

จากการสอบถามนายสุริยาฯ ให้การยอมรับว่า ตนได้รับประสานจากชายเมียนมา ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่บริเวณ ป่าข้างทาง พื้นที่ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก จ.ตาก จำนวน 15 คน เพื่อไปส่งปลายทาง ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้ค่าจ้าง 1,500 บาท/คน โดยทราบดีอยู่แล้วว่าต่างด้าวทั้ง 15 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ พร้อมรับว่าระหว่างขับรถที่บรรทุกต่างด้าวมานั้น ตนได้มีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถ เพื่ออำพรางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดทาง และกระทำลักษณะนี้มาแล้ว 3 ครั้ง 

จากการสอบถาม ต่างด้าวทั้งหมดให้การรับว่า ลักลอบเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนรับขึ้นรถเพื่อเดินทางมาในพื้นที่ชั้นใน โดยเสียค่าใช้จ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 20,000 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง จ.นครปฐม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป