วันนี้ (15 กรกฎาคม 2566) เวลา 16.00 น. ที่อนุสรณ์สถานสึนามิ บ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานเปิดงาน “Walk and Run for Tsunami Learning 2023  เดิน-วิ่ง เรียนรู้เส้นทางอพยพเมื่อเกิดสึนามิ” ในพื้นที่จังหวัดพังงา โดยมีนายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายธราธิป ทองเจิม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา นายไมตรี จงไกรจักร ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไท หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดพังงา และชาวจังหวัดพังงา ร่วมกิจกรรมฯ

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คลื่นสึนามิ พัดถล่มพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเมื่อปี 2547 ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จึงนำไปสู่การเตรียมการรับมือ วางระบบเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยสึนามิ โดยเฉพาะการจัดทำและฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุและแผนอพยพ รวมถึงการประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงภัยในการเอาตัวรอดเมื่อเกิดสึนามิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะหน่วยงานกลางด้านการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ จึงได้ร่วมกับ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน และหน่วยงานภาคีเครือข่ายการจัดการสาธารณภัยในระดับพื้นที่จัดกิจกรรม “Walk and Run for Tsunami Learning 2023 เดิน-วิ่ง เรียนรู้เส้นทางอพยพเมื่อเกิดสึนามิ” ในวันที่ 15 – 16 กรกฎาคม 2566 ในพื้นที่จังหวัดพังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง ตรัง และสตูล เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิได้เรียนรู้เส้นทางการอพยพ จดจำเส้นทางการหนีภัย และทดสอบการรับรู้ป้ายสัญลักษณ์และเส้นทางหนีคลื่นสึนามิไปยังสถานที่ปลอดภัย ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในการฝึกซ้อมการอพยพหนีภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ และสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอพยพและการปฏิบัติตนเมื่อมีการแจ้งเตือนแผ่นดินไหวในทะเลและการเกิดคลื่นสึนามิ เพื่อจะได้อพยพหนีภัยอย่างปลอดภัยและทันเวลา

“กิจกรรม Walk and Run for Tsunami Learning 2023 เดิน-วิ่ง เรียนรู้เส้นทางอพยพเมื่อเกิดสึนามิ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้นำการฝึกอพยพหนีคลื่นยักษ์สึนามิมาผนวกกับกิจกรรมการวิ่งเพื่อสุขภาพ โดยใช้เส้นทางการอพยพเป็นเส้นทางในการวิ่ง และเส้นชัยคือจุดปลอดภัยที่ได้จัดเตรียมไว้สำหรับการอพยพหนีคลื่นสึนามิโดยเฉพาะ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งแรก มีกระแสตอบรับที่ดี โดยมีผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมการเดิน-วิ่ง มากถึง 4,200 คน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเตือนให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิเห็นถึงความสำคัญของการเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อให้รับการแจ้งเตือนและสามารถปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยเมื่อต้องอพยพหนีภัยสึนามิ ทั้งนี้ ปภ. และ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน รวมถึงภาคีเครือข่ายด้านการจัดการสาธารณภัยภาคใต้ ได้มุ่งการสร้างสังคมที่ปลอดภัยผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนการบูรณาการการบริหารจัดการสาธารณภัยระหว่างหน่วยงานให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมีความเชื่อมั่นในความพร้อมและศักยภาพด้านการบริหารจัดการของประเทศไทยเมื่อเกิดสาธารณภัย” อธิบดี ปภ. กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับงาน Walk and Run for Tsunami Learning 2023 เดิน-วิ่ง เรียนรู้เส้นทางอพยพเมื่อเกิดสึนามิ จัดขึ้นในวันที่ 15 และ 16 กรกฎาคม 2566 กำหนดเส้นทางการวิ่งโดยใช้เส้นทางอพยพหนีคลื่นสึนามิ ระยะทางประมาณ 2 - 4 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน-วิ่ง ประมาณ 30 นาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนคลื่นสึนามิลูกแรกจะกระทบฝั่งหลังสัญญาณเตือนการเกิดสึนามิดังขึ้น แบ่งเป็น วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา เส้นทางวิ่งจากอนุสรณ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม – โรงเรียนบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ระยะทาง 3 กิโลเมตร จังหวัดระนอง เส้นทางวิ่งจากท่าเรืออุทยานแหลมสน – อาคารหลบภัยสึนามิ ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ ระยะทาง 2.11 กิโลเมตร จังหวัดตรัง เส้นทางวิ่งจากหาดปากเมง - โรงเรียนหาดปากเมง หมู่ที่ 4 บ้านหาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ระยะทาง 2 กิโลเมตร และจังหวัดกระบี่ เส้นทางวิ่งจากหาดนพรัตน์ธารา - โรงเรียนบ้านคลองแห้ง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ระยะทาง 2 กิโลเมตร สำหรับวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 จัดกิจกรรมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต เส้นทางวิ่งจากศาลาไม้ขาวบีชรีสอร์ท - องค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว อ.ถลาง ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร และจังหวัดสตูล เส้นทางวิ่งจากโรงเรียนตาดีกา หมู่ที่ 3 – โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว หมู่ที่ 2 ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล ระยะทาง 4 กิโลเมตร ซึ่งผู้ที่เดิน – วิ่งเข้าเส้นชัยหรือจุดปลอดภัยในเวลาที่กำหนดจะได้รับเข็มที่ระลึกงาน Walk and Run For Tsunami Learning 2023 และผู้ที่เดิน – วิ่งถึงเส้นชัย 5 ลำดับแรกจะได้รับรางวัลพิเศษจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย