วันที่ 25 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานได้เดินทางไปสังเกตุการณ์ยังบ้านเลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง  ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฎว่า บรรยากาศยังคงเงียบเหงา มีเพียงคนใกล้ชิดที่เดินทางเข้าไปนั่งพูดคุยเรื่องการเมือง และรับประทานกาแฟร่วมกันเพียงไม่กี่คน  รวมทั้ง นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย  ซึ่งต้องมาพ่ายให้กับ นายนิพันธ์ ศิริธร อดีตรองผู้ว่าฯ ตรัง จากพรรคพลังประชารัฐ และเป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 30 ปีที่ต้องเสียที่นั่งให้กับพรรคอื่น  ทั้งที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของ นายชวน จนถูกเปรียบเปรยว่าเป็นเมืองหลวงของพรรคประชาธิปัตย์

        นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเลือกตั้งต้องมีแพ้และชนะเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง และหลังจากนี้จะขอยุติบทบาททางการเมืองอย่างสิ้นเชิง แต่ถ้าพรรคมีอะไรให้ทำก็ยินดีช่วย  ส่วนสาเหตุที่แพ้การเลือกตั้งครั้งนี้มีหลายปัจจัย เช่น การให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลที่โหมกระหน่ำลงมา และกระแสความนิยมบางพรรคที่มาดึงคะแนนของตนไป เนื่องจากมีผู้สมัครจำนวนมากส่งผลให้คะแนนของตนถูกแบ่งไปพอสมควร รวมทั้งปัจจัยอย่างอื่น  ทั้งที่ตนเองได้พยายามเต็มที่ และสู้เพื่อประชาชนมาตลอด โดยเฉพาะการแก้ปัญหายางพาราและปาล์มน้ำมันราคาตกต่ำ  จึงขอให้พี่น้องประชาชนจับตาดูนโยบายของบางพรรคที่รับปากว่า จะแก้ปัญหาราคายางพาราที่ ก.ก.ละ 65 บาท ราคาปาล์มน้ำมันที่ ก.ก.ละ 5 บาท ว่า จะทำได้จริงหรือไม่

 

 ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ได้ขอให้สัมภาษณ์เฉพาะการเลือกตั้งใน จ.ตรัง ว่า  ทุกพรรคก็หวังชัยชนะ ส่วน นายแพทย์สุกิจ ก็มาพ่ายไปกว่า 800 คะแนนเท่านั้น และตนเองก็เสียใจ  เพราะ นายแพทย์สุกิจ เคยเป็นข้าราชการที่ดี และคนที่ดีที่สุดที่จะเลือกได้ในสมัยนั้นก็คือ นายแพทย์สุกิจ  แต่ก็ได้สละตำแหน่งลาออกมาสมัคร ส.ส.ตรัง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2529  กระทั่งมาถึงวันนี้ นายแพทย์สุกิจ ได้ทำหน้าที่ ส.ส.ได้ดีที่สุดแล้ว  และพรรคก็ไว้วางใจให้เป็นประธานร่างนโยบายยางพารา และนำเรื่องยางพาราไปพูดในสภามากที่สุด  แต่สิ่งที่ตนภูมิใจคือ เราทำการเมืองแบบสุจริต ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยจะไม่ซื้อเสียง หรือไม่โกงเลือกตั้ง  และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายแพทย์สุกิจ ก็ยึดหลักการนี้มาโดยตลอด จึงขอขอบคุณทุกคะแนนที่ได้ เพราะเป็นเสียงบริสุทธิ์จริงๆ
        ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยภาพรวมที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งครั้งนี้วิเคราะห์ว่าอย่างไร  นายชวน กล่าวว่า คงต้องอาศัยสื่อช่วยวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวูบวาบในช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อน  โดยถามว่ามีอะไรเกิดขึ้น และวิเคราะห์ดูว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้  แต่ตนขออนุญาตไม่ออกความเห็น เพราะไม่มีความรู้มากพอที่จะหยั่งลึกได้  อย่างไรก็ตาม ยินดีที่คนส่วนหนึ่งใน จ.ตรัง ยังยึดมั่นในเรื่องนี้อยู่ และระบบประชาธิปไตยจะไปรอดในอนาคตต้องสร้างความชอบธรรม  โดยหากได้พรรคการเมืองที่มีการมาจากระบบใช้เงินซื้อเสียง การเลือกตั้งระบบประชาธิปไตยก็จะไปไม่รอด  ส่วนตัวเองหลังจากนี้ก็จะไปเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ คงจะอยู่ในสภา และทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงของประชาชนต่อไป

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยภาพรวมที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งครั้งนี้วิเคราะห์ว่าอย่างไร  นายชวน กล่าวว่า คงต้องอาศัยสื่อช่วยวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวูบวาบในช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อน  โดยถามว่ามีอะไรเกิดขึ้น และวิเคราะห์ดูว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นอย่างนี้  แต่ตนขออนุญาตไม่ออกความเห็น เพราะไม่มีความรู้มากพอที่จะหยั่งลึกได้  อย่างไรก็ตาม ยินดีที่คนส่วนหนึ่งใน จ.ตรัง ยังยึดมั่นในเรื่องนี้อยู่ และระบบประชาธิปไตยจะไปรอดในอนาคตต้องสร้างความชอบธรรม  โดยหากได้พรรคการเมืองที่มีการมาจากระบบใช้เงินซื้อเสียง การเลือกตั้งระบบประชาธิปไตยก็จะไปไม่รอด  ส่วนตัวเองหลังจากนี้ก็จะไปเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ คงจะอยู่ในสภา และทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงของประชาชนต่อไป