วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ตำรวจ ปอศ. ร่วมกันจับกุม จับกุมนางสาวพิณณ์นพเก้าฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1199/2566 ลงวันที่ 20 เมษายน 2566 ผู้กระทำผิดตามประมวลรัษฎากรในความผิดฐาน “ร่วมกันหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกง หรืออุบายหรือวิธีการอื่นใดในทำนองเดียวกัน” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 200,000 บาท
สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 101 แยก 33 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เนื่องจากว่ากรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าวดำเนินการเกี่ยวกับ การติดตั้ง ตรวจสอบ และจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับป้องกันอัคคีภัย โดยมีนางสาวพิณณ์นพเก้าฯ เป็นกรรมการบริษัทฯ ที่ได้มีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาจากลูกค้าแล้วกลับไม่นำเงินจำนวนดังกล่าวส่งกรมสรรพากร มูลค่าค่าความเสียหายกว่า3ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้สืบทราบว่า นางสาวพิณณ์นพเก้าฯ ผู้ต้องหา ได้หลบหนีไปพักอาศัยที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 101 แยก 33 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกก. 2 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธเตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ได้ดำเนินการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร นำใบกำกับภาษีปลอมมาใช้ รวมถึงการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่ไม่นำส่งกรมสรรพากร ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามผู้กระทำผิดตามประมวลรัษฎากร
©2018 CK News. All rights reserved.