วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) นำคณะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. หารือเกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับสองประเทศ กับผู้ช่วยผู้บัญชาการมัตสึโยชิ มัตสึโมโต ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติดและอาวุธปืน สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (National Police Agency of Japan: NPA) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยมีประเด็นหารือสำคัญเกี่ยวกับการประสานข้อมูลคดียาเสพติดระหว่างประเทศสำคัญและการสืบสวนขยายผล ดังนี้
คดีแรกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 หน่วย SITF (หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ) ได้ตรวจยึดไอซ์ ซุกซ่อนในแผ่นซิลิโคน น้ำหนักประมาณ 945 กก. โดยยึดได้ระหว่างพยายามส่งออกจากท่าเรือกรุงเทพไปยังปลายทางไต้หวัน จากการสืบสวนขยายผลพบว่าก่อนหน้านี้เครือข่ายดังกล่าว เคยส่งแผ่นซิลิโคนไปยังประเทศญี่ปุ่นซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ NPA ประจำประเทศไทย ประสานข้อมูลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 7 คน พร้อมตรวจยึดไอซ์ น้ำหนักประมาณ 700 กก. ซุกซ่อนภายในแผ่น PVC ได้ก่อนส่งไปประเทศปลายทาง

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ศุลกากร สนามบินเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จับกุมหญิงไทย พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 490 กรัม ซุกซ่อนภายในกระเป๋าเดินทาง จากการสืบสวนขยายผลร่วมกัน พบว่ามีหญิงรายหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการชำระเงินโปรแกรมทัวร์ให้ผู้ต้องหาเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหญิงคนดังกล่าวเคยมีประวัติต้องโทษในคดียาเสพติดทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย น่าเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนยาเสพติด

และคดีเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 หน่วย AITF (หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดท่าอากาศยาน) ได้จับกุมผู้ต้องหาหญิง 2 ราย พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 270 กรัม ซุกซ่อนภายในช่องคลอด และไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2,015 กรัม ซุกซ่อนภายในกระเป๋าสัมภาระ โดยเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดก่อนเข้าสู่ปลายทางประเทศญี่ปุ่น

โดยทางการญี่ปุ่นได้แสดงความขอบคุณสำหรับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ และพร้อมประสานข้อมูลเพิ่มเติมจาก อาทิ บันทึกจับกุม เพื่อให้ ป.ป.ส. สามารถนำหลักฐานดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ตนได้กวดขันให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของผู้ลักลอบขนยาเสพติดระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด และยังได้แสดงความกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเฟนทานิลในอนาคต เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะมีการผลิตเฟนทานิลที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จากการที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกรมศุลกากร ตรวจยึดอะนิลีน (aniline) ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ประเภทที่ 3 ได้ ระหว่างการขนส่งผ่านประเทศไทยเข้าสู่ สปป.ลาว โดยจากการที่อะนิลีนเป็นสารประกอบที่ใช้ในอุตสาหกรรม แต่ สปป.ลาว เป็นประเทศเกษตรกรรม ทำให้เชื่อได้ว่าอะนิลีนดังกล่าวอาจถูกส่งไปยังแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ ทั้งนี้อะนิลีนที่ตรวจยึดได้สามารถนำไปผลิตเฟนทานิลได้ 100,000 กิโลกรัม  จึงได้แลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวกับฝ่ายญี่ปุ่นเพื่อการร่วมมือกันในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเฟนทานิล สุดท้ายนี้ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ในการสกัดกั้นยาเสพติดมิให้ทะลักเข้าไปยังประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศญี่ปุ่นด้วย