จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความระบุเกี่ยวกับเรื่องเชียงใหม่พบจุดเสี่ยง 2 รอยเลื่อนมีพลัง พาดผ่านพื้นที่ในเมือง แม่ออน และแม่อาย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
ทั้งนี้ ตรวจสอบพบว่า กลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา พาดผ่านหลายอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอพร้าว แม่ออน สันกำแพง ดอยสะเก็ด แม่ริม แม่แตง เชียงดาว รวมถึง อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
โดยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2538 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ , วันที่ 13 ธันวาคม 2549 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.2 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ แรงสั่นสะเทือนทำให้ มีบ้านเรือนผนังร้าวในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่
ล่าสุดวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.1 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนรู้สึกสั่นไหวบริเวณ อำเภอเมือง สันกำแพง สันทราย แม่ริม ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอเมือง บ้านธิ จังหวัดลำพูน
กลุ่มรอยเลื่อนแม่จัน พาดผ่าน อำเภอฝาง แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอดอยหลวง และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และต่อเนื่องไปในประเทศลาว เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.6 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ประชาชนรู้สึกสั่นไหวบริเวณ อำเภอฝาง ไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
ในครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบพื้นที่บริเวณกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทาและกลุ่มรอยเลื่อนแม่จัน โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและการเตรียมความพร้อมรับมือ หากเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวขึ้น อย่างไรก็ตามแผ่นดินไหวยังไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือนจากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และหากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติม สามารถสอบถามได้ที่ www.earthquake.tmd.go.th หรือเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาได้โดยตรง www.tmd.go.th และ Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thai weather สามารถโทรสายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
©2018 CK News. All rights reserved.