เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.66 เวลา 11.09 น.ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีพราหมณ์ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่ในช่วงบ่าย เวลา 13.09 น.จะมีพิธีพุทธาภิเษก เหรียญพระเครื่องรุ่น”สร้างบารมี 66”ที่ระลึกอายุครบ 8 รอบ หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม (วัดบ้านด่านช่องจอม) สมทบทุนสร้างมณฑลรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกเหรียญพระเครื่องวัตถุมงคล ร่วมกับหลวงตาแก่น คัมภีรมุนี เจ้าอาวาสวัดสุวรรณรัตน์โพธิยาราม และหลวงปู่มี จิตสาโร เจ้าอาวาสวัดโพนทอง อย่างเข้มขลังค์ โดยมีนายศิริวุธ วงษ์เจริญ กำนันตำบลด่าน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส การจัดสร้างเหรียญพระเครื่องรุ่น”สร้างบารมี 66”ที่ระลึกอายุครบ 8 รอบ จัดสร้างโดย ชิโนรส ณ.นางรอง”ทีมงานสายบุญอีสานใต้ Winai Amulet”ทั้งนี้การจัดสร้างครั้งนี้ เข้าระบบสถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย ACI การันตีโดย ดร.เสมอ งิ้วงาม(ป๋อง สุพรรณ)
สำหรับเหรียญพระเครื่องรุ่น”สร้างบารมี 66”ที่ระลึกอายุครบ 8 รอบ หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม (วัดบ้านด่านช่องจอม) มีหลากหลายรุ่นและเนื้อเหรียญให้ประชาชนที่ศรัทธาได้บูชา อาทิ เนื้อเงินหน้ากากทองคำลงยาแดง,เนื้อเงินลงยาแดง ลงยาจีวร ฝังพลอยขาว,เนื้อนวะ ลงยาแดงลงยาจีวร (เซอร์ไพรส์ฝังเพชร 96 เหรียญ),เนื้อนวะลงยาส้ม ลงยาจีวร,เนื้อนวะหนเกากเงิน ลงนาจีวร ตอก 9 รอบ (เซอร์ไพรส์มีขอบตอกโค้ตเฮง 96 เหรียญ/ พิเศษขอบเรียบหน้ากากเงินเต็มแผ่น 11 เหรียญ),เนื้อนวะเจาะห่วงใส่ห่วงโบราณ ลงยาขาว ลงยาจีวร(เซอไพรส์ฝังพลอยแดงสังฆาฏิ 96 เหรียญ),เนื้อนวะลงยาจีวร,เนื้ออัลปาก้าซาติน ลงยาแดง ลงยาจีวร,เนื้ออัลปาก้าซาติน ลงยาฟินิกซ์ ลงยาจีวร,เนื้ออัลปาก้า ลงยาน้ำเงิน ลงยาจีวร ห่วงวเชื่อมเงิน,เนื้อชนงน,เนื้อ 3 K,เนื้อแบล็คโรเดียม 3 K,เนื้อตะกั่วหน้ากากเงิน,เนื้องทองฝาบาตร,เนื้อชุบทอง,เนื้อทองแดงมันปู,เนื้อทองแดงรมดำ,เนื้อทองแดงเถื่อนและเนื้อบลูโรเดี้ยม เป็นต้น โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งจองได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ทีมงานสายบุญอีสานใต้ Winai Amulet โทร.062-904-5496 และ ชิโนรส ณ.นางรอง โทร.098-218-7540
โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีพราหมณ์ พบว่าประชาชนนักเสี่ยงโชคที่มาร่วมในพิธีต่างไม่พลาดที่จะพากันกรูเข้าไปส่องเลขเด็ดที่ปรากฎอยู่ในธูปจีนที่จุดบวงบสรวงปักไว้กับหวีกล้วยอย่างใจจดใจจ่อ หวังนำเลขดังกล่าวไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ เลขที่ได้คือเลข 541 นั่นเอง จากนั้นหลังเสร็จสิ้นพิธีปลุกเสกเหรียญพระเครื่องวัตถุมงคลดังกล่าว ยังได้มีการแจกเหรียญพระเครื่องรุ่นสร้างบารมี 66 จำนวน 2,500 เหรียญ ให้กับประชาชนพุทธศาสนิกชนที่มารอรับเหรียญ จำนวนกว่า 2,500 คน นอกจากนี้ยังมีเซียนพระมารอรับซื้อหรือรับเช่าต่อจากประชาชนอยู่ด้านหน้าเหรียญละ 200-300 บาท และหากพบว่ามีเลขตอกโค้ตในเหรียญ เป็นเลข 8 กับ เลข 9 จะรับเช่าซื้อในราคา 5 พันบาท และเลขที่มีราคาสูงสุดคือเลข 168 พุ่งถึงเหรียญละ 1 หมื่นบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ รายได้ส่วนหนึ่ง ทีมงานจัดสร้างเหรียญจะสมทบทุนสร้างสร้างมณฑลรูปเหมือนหลวงปู่เฮงองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะมีการอัญเชิญขึ้นตั้งประดิษฐานในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.66) เพื่อรอให้ช่างตกแต่งให้เสร็จและจะมีพิธีเบิกเนตรอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในวันเกิดของหลวงปู่เฮง คือวันที่ 11 ส.ค.66 อีกครั้ง โดยที่บริเวณด้านหน้ามณฑลรูปเหมือนหลวงปู่เฮง มีรูปปั้นองค์พญาคู่ ขนาดใหญ่ มีความยาวกว่าร้อยเมตร ตั้งอยู่ด้านหน้าอย่างสง่าและสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย
สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ
จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย
©2018 CK News. All rights reserved.